สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 10 มิ.ย. 2563
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 10 มิ.ย. 2563
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 มิ.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลง 6.5% ในปีนี้ และนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานและแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นปิดที่เหนือระดับ 10,000 จุดเป็นครั้งแรก โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,989.99 จุด ลดลง 282.31 จุด หรือ -1.04% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,190.14 จุด ลดลง 17.04 จุด หรือ -0.53% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,020.35 จุด เพิ่มขึ้น 66.59 จุด หรือ +0.67%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (10 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการเข้าซื้อหุ้น ขณะรอผลการประชุมนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการเปิดเผยคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจถดถอยในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.38% ปิดที่ 368.15 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,053.42 จุด ลดลง 41.68 จุด หรือ -0.82%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,530.16 จุด ลดลง 87.83 จุด หรือ -0.70% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,329.13 จุด ลดลง 6.59 จุด หรือ -0.10%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (10 มิ.ย.) เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังในการซื้อขายหุ้นก่อนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศผลการประชุมนโยบายการเงิน
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,329.13 จุด ลดลง 6.59 จุด หรือ -0.10%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 มิ.ย.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น เป็นปัจจัยดึงดูดแรงซื้อของนักลงทุนและช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบปิดในแดนบวก แม้ตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นสวนทางการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ก็ตาม
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 66 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 39.60 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 41.73 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 มิ.ย.) ขณะที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.2 ดอลลาร์ หรือ 0.07% ปิดที่ 1,720.7 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 0.2 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 17.796 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 14.6 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 846 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ดิ่งลง 36.30 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 1,930.80 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 มิ.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปจนถึงปี 2565 และยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลง 6.5% ในปีนี
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.11 เยน จากระดับ 107.73 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9437 ฟรังก์ จากระดับ 0.9501 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3383 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3394 ดอลลาร์แคนาดา
สกุลเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1389 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1343 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2765 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2739 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7017 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6965 ดอลลาร์สหรัฐ