กลิ่นตุ ๆ ที่อสมท

ขี่พายุทะลุฟ้า : ชาญชัย สงวนวงศ์

คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติเยียวยาอสมท หรือMCOT กรณีเรียกคืนคลื่นความถี่ 2600 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 3,235.83 ล้านบาท เป็นเรื่องไม่แปลก

แต่เรื่องที่แปลก เห็นจะเป็นเรื่องที่อสมท จะต้องแบ่งเงินค่าเยียวยา 50% หรือครึ่งหนึ่งเป็นจำนวน 1,671.91 ล้านบาท ไปให้แก่บริษัทเพลย์เวิร์คด้วย โดยประสงค์ของผู้บริหารทางฝั่งอสมท

บริษัทเพลย์เวิร์คเป็นใคร มีเหตุผลอะไรจะได้สิทธิเข้ามารับส่วนแบ่งเยียวยาด้วย และค่าส่วนแบ่งเยียวยากว่า 1.6พันล้านบาทนั้น เหมาะหรือควรเพียงใด เป็นเรื่องควรได้รับคำอธิบายต่อสาธารณะอย่างกระจ่างแจ้ง ทั้งก่อนหน้านี้มาแล้วและหลังจากมติกสทช.นับต่อแต่นี้

ในฐานะของอสมท ที่เป็นรัฐวิสาหกิจ กระทรวงคลังถือหุ้นอยู่ร้อยละ 65 และการที่ MCOT เป็นบริษัทมหาชนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งมีผู้ถือหุ้นมากมายเป็นผู้มีส่วนได้เสีย

ยิ่งมาพิจารณาถึงฐานะกิจการอสมท ที่แม้ขณะนี้ ส่วนทุนยังไม่ถึงกับติดลบ (เป็นบวกอยู่ 3,215 ล้านบาท) แต่ผลประกอบการ 4 ปีย้อนหลังมานี้ มีผลขาดทุนมาทุกปี อาการน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง

งบปี 2559 ขาดทุน 734.89 ล้านบาท ปี 2560 ขาดทุน 2,542.35 ล้านบาท ปี 2561-2562 ขาดทุน 375.72 และ 457.46 ล้านบาทตามลำดับ สำหรับงบไตรมาส 1 ปีนี้ (2563) อสมท ยังไม่ได้ส่งงบตามเกณฑ์ผ่อนผันของก.ล.ต. ซึ่งคาดกันว่าก็คงจะติดลบ

อสมท มีขาดทุนสะสมอยู่ถึง 1,710.66 ล้านบาท ซึ่งเงินค่าเยียวยา 3.2 พันล้านบาท ถ้าได้รับมาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ก็จะช่วยค้ำยันสถานะกิจการอันย่อบแย่บได้ไม่น้อย แต่ทำไมต้องเอาไปแบ่งคนอื่น และแบ่งในมูลค่ายุติ
ธรรมเพียงใด

เรื่องนี้ ยังไม่เคยมีคำอธิบายอย่างกระจ่างแจ้งเป็นทางการจากอสมท มาก่อนหน้านี้และกระทั่งเดี๋ยวนี้ มีแต่ความเพียรพยายามของผู้อำนวยการใหญ่อสมท คุณเขมทัตต์ พลเดชที่เป็นห่วงเป็นใยในส่วนแบ่งเยียวยาของบริษัทเอกชน ถึงกับระบุในหนังสือขอรับเยียวยาที่มีไปยังกสทช.ว่าจะแบ่งเค้กก้อนใหญ่ไปให้บริษัทเพลย์เวิร์ค ด้วย

เป็นห่วงบริษัทเอกชนเสียจริง แต่ไม่ห่วงบอร์ด อสมท 2 ท่านคือคุณพิเศษ จียาศักดิ์ และน.ส.ปาริชาต สถาปิตานนท์ที่ลาออกทันทีหลังมติกสทช.เอาเสียเลย

สำหรับบริษัทเพลย์เวิร์ค ชื่อนี้ ไม่คุ้นเอาเสียเลย มีที่ตั้งเลขที่ 34 ซอยลาดพร้าว 30 จันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. วัตถุประสงค์จากงบการเงินปีล่าสุดคือ ให้บริการเพื่อดำเนินการผ่านทางระบบเครือข่ายโทรคมนาคมและให้บริการทางด้านข่าวสาร

กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อ มีเพียงคนเดียวคือนายธราดล โตศุกลวรรณ์

ความเกี่ยวข้องกับ MCOT ก็คือ เป็น “คู่สัญญา” ในการบริหารเนื้อหาและการการตลาดโครงการโทรทัศน์บอกรับสมาชิก ซึ่งเข้าใจว่าก็น่าจะในทำนองเป็น “เคเบิล ทีวี” โดยใช้คลื่น 2600MHz นั่นแหละ

“เคเบิล ทีวี” เจ้านี้ ใครรู้จักบ้าง ผลงานความนิยมจากมหาชนเป็นที่ประจักษ์เพียงใด และเกิดความเสียหายเพียงใด ถึงจะต้องชดใช้ค่าเสียโอกาสทางธุรกิจกันเป็น 1.6 พันกว่าล้านบาทขนาดนี้

มีคนในอสมท พยายามอธิบายให้ผมเข้าใจว่า ถ้าไม่มี “เพลย์ เวิร์ค” บมจ.อสมท ก็คงไม่ได้รับการเยียวยา เพราะเป็นผู้ครอบครองคลื่นเฉย ๆ โดยไม่ได้เข้าไปใช้ประโยชน์แต่ประการใด ผมก็ว่ามันก็ยิ่งเป็นเหตุผล “ห่วยแตก” เข้าไปใหญ่

เพราะอันที่จริง อสมท ก็ได้รับการจัดสรรคลื่น 2600MHz ดังกล่าวมาฟรี ๆ ถ้าไม่เข้าไปทำประโยชน์อะไร ก็คงจะต้องคืนคลื่นให้แผ่นดินเมื่อก้าวสู่ยุคเสรีโทรคมนาคมแล้ว แต่นี่ก็ “เลี่ยงบาลี” กันมา จึงอาจจะเรียกได้ว่า เงินเยียวยาค่าคลื่นเป็น “ลาภอันมิควรได้” ของอสมท ก็ได้

“ลาภอันมิควรได้” ของอสมท ดันมาถูกแบ่งกึ่งจากเอกชนโนเนมเสียอีก เรื่องนี้คงต้องถึง “ครูอังคณา” แน่