BIG ชื่อใหญ่..ไซซ์เล็ก
ชักเริ่มจะไม่ “ใหญ่” เหมือนชื่อซะแล้ว...สำหรับบริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BIG ที่ตกอยู่ในสถานการณ์โตยากขึ้นเรื่อย ๆ...
สำนักข่าวรัชดา
ชักเริ่มจะไม่ “ใหญ่” เหมือนชื่อซะแล้ว…สำหรับบริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BIG ที่ตกอยู่ในสถานการณ์โตยากขึ้นเรื่อย ๆ…
ดูได้จากผลประกอบการในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาแคระแกร็นลงเรื่อย ๆ…
จากปี 2559 เคยมีรายได้รวม 5,663 ล้านบาท กำไรสุทธิสูงถึง 846 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 14.95% ปี 2560 แม้รายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 6,043 ล้านบาท แต่กำไรสุทธิลดเหลือ 774 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 12.82%
ส่วนปี 2561 มีรายได้รวม 5,786 ล้านบาท กำไรสุทธิเหลือ 549 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 9.50% และปี 2562 มีรายได้รวม 4,560 ล้านบาท กำไรสุทธิเหลือแค่ 207 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 4.56%
สะท้อนว่า BIG ได้ก้าวผ่านพ้นจุดเฟื่องฟูมาแล้ว…
ก่อนหน้านี้ BIG พยายามไปปักหมุดในต่างประเทศ เพื่อแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ ผ่านบริษัทลูกอย่างบริษัท บิ๊ก คาเมร่า โฮลดิ้ง จำกัด
แต่เหมือนโชคชะตาจะเล่นตลก…เมื่ออยู่ ๆ ก็เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ฉุดให้เศรษฐกิจทั่วโลกพังยับเยิน ทำให้แผนที่ BIG จะออกไปล่าอาณานิคมในต่างแดนพังไม่เป็นท่า ล่าสุดต้องประกาศปิดบริษัท บิ๊ก คาเมร่า โฮลดิ้ง เนื่องจากสถานการณ์ตอนนี้ยังไม่เหมาะที่จะลงทุน
เป็นการปิดฉากแผนการลงทุนในต่างประเทศไปโดยปริยาย…
หันกลับมาดูตลาดภายในประเทศก็โตยาก…ระยะสั้นได้รับผลกระทบจากโควิด-19
นี่ขนาดไตรมาสแรกปิดร้านไม่ถึงเดือน งบไตรมาสแรกยังทรุดหนัก พลิกมาขาดทุนสุทธิ 19 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 106 ล้านบาท
ขณะที่ไตรมาส 2 ได้รับผลกระทบไป 2 เดือนเต็ม เหลือแค่ 1 เดือนที่ร้านกลับมาเปิดได้ แต่ก็ถูกจำกัดด้วยมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ทำให้ตัวเลขงบการเงินออกมาไม่ดีแน่ ๆ
ใครที่มีหุ้น BIG ติดอยู่ในพอร์ตอาจต้องทำใจหน่อยละกัน…
ส่วนในระยะยาว ตลาดกล้องไม่ได้สวยงามเหมือนในอดีต..เนื่องจากถูกชดเชยด้วยกล้องสมาร์ตโฟนที่มีลูกเล่นใหม่ ๆ ทำได้สารพัดอย่าง เช่น กล้องถ่ายหน้าชัด หลังเบลอ,ถ่าย Portrait สวย แม้แสงน้อย, ถ่ายภาพมุมกว้าง, ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูง, กล้องที่ทำงานคู่กับระบบ AI ฯลฯ
นี่ยังไม่นับรวมเรื่องอายุการใช้งานกล้องถ่ายรูปที่ยาวนาน ทำให้ไซเคิลในการเปลี่ยนกล้องตัวใหม่ค่อนข้างช้า
สุดท้ายก็จะเป็นแค่ตลาดนิชมาร์เก็ต มีลูกค้าเฉพาะกลุ่มเท่านั้น ทำให้ปริมาณการใช้ไม่มาก
กลายเป็นข้อจำกัดในการโตของ BIG ในอนาคต…
นับว่าสถานการณ์น่าเป็นห่วงจริง ๆ
ก็น่าคิดว่า BIG จะดิ้นหนีตายจากเกมธุรกิจนี้อย่างไร..? เป็นโจทย์ยากที่จะต้องหาทางแก้โดยด่วน…
ไม่เช่นนั้น BIG ก็จะเป็นได้แค่ “ชื่อใหญ่”…แต่“ไซซ์เล็ก” นั่นเอง
…อิ อิ อิ…