สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 15 มิ.ย. 2563

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 15 มิ.ย. 2563


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 มิ.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขยายขอบข่ายการซื้อตราสารหนี้ของภาคเอกชน โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสภาพคล่องในระบบการเงิน ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์พลิกกลับมาปิดตลาดในบวก หลังจากที่ทรุดตัวลงอย่างหนักในระหว่างวัน อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับการระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,763.16 จุด เพิ่มขึ้น 157.62 จุด หรือ +0.62% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,066.59 จุด เพิ่มขึ้น 25.28 จุด หรือ +0.83% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,726.02 จุด เพิ่มขึ้น 137.21 จุด หรือ +1.43%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (15 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไรหลังจากตลาดทะยานขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการระบาดรอบสองของโรคโควิด-19 หลังจากจีนรายงานยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.27% ปิดที่ 353.09 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,815.72 จุด ลดลง 23.54 จุด หรือ -0.49%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 11,911.35 จุด ลดลง 37.93 จุด หรือ -0.32% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,064.70 จุด ลดลง 40.48 จุด หรือ -0.66%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (15 มิ.ย.) โดยถูกกดดันจากความวิตกที่ว่าโรคโควิด-19 อาจระบาดรองสองในจีนหลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น และนักลงทุนกังวลกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโรคระบาดดังกล่าวหลังจีนรายงานยอดค้าปลีกลดลงในเดือนพ.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนชะลอการซื้อขายลงเพื่อรอดูผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในสัปดาห์นี้ด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,064.70 จุด ลดลง 40.48 จุด หรือ -0.66%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองบวกต่อการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ได้ตัดสินใจขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า การผลิตน้ำมันจากหินดินดาน (shale oil) ในสหรัฐจะปรับตัวลดลง

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 2.4% ปิดที่ 37.12 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 99 เซนต์ หรือ 2.6% ปิดที่ 39.72 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (15 มิ.ย.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากแรงขายทำกำไร ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 ทำให้นักลงทุนเลือกที่จะถือเงินสดมากกว่าสินทรัพย์ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 10.1 ดอลลาร์ หรือ 0.58% ปิดที่ 1,727.2 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 8.3 เซนต์ หรือ 0.47% ปิดที่ 17.399 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 2.7 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ 821.7 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 5.40 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,933.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 มิ.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขยายขอบข่ายการซื้อตราสารหนี้ของภาคเอกชนเพื่อหนุนสภาพคล่องในระบบ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังอ่อนค่าลงจากคำสั่งขายทำกำไร หลังจากที่แข็งแกร่งติดต่อกันสองวันทำการก่อนหน้านี้

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.61% สู่ระดับ 96.7090 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.32 เยน จากระดับ 107.44 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ

0.9481 ฟรังก์ จากระดับ 0.9542 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3561 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3612 ดอลลาร์แคนาดา

ส่วนยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ  1.1315 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1234 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2582 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2492 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6915 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6843 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button