ครึ่งบ่ายไม้สั้น – บล.คันทรี่กรุ๊ป

บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่กรุ๊ป สรุปทิศทางและแนวโน้มตลาดบ่ายนี้


สรุปตลาดภาคเช้า

ตลาดภาคเช้าปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่างการซื้อขาย แม้ว่าความกังวลต่อประเด็นค่าเงินของจีนที่ลดลง แต่ด้วย ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้แรงซื้อยังคงอ่อนแอ  ปิดตลาดภาคเช้าดัชนีเปลี่ยนแปลง +2.21 จุด มาที่ระดับ 1,406.36 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ระดับ 1.7 หมื่นล้านบาท

 

แนวโน้ม ภาคบ่าย

มองดัชนีมีแนวโน้มทรงตัวในภาคบ่าย จากภาพรวมที่ขาดปัจจัยที่โดดเด่น ท่ามกลางการรายงานงบไตรมาส 2 ในช่วงสุดท้าย พร้อมการการรอดูการรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ของไทยในสัปดาห์หน้าซึ่งทำให้ปริมาณการซื้อขายเบาบาง

 

วิเคราะห์ทางเทคนิค

EIC   ราคาปิด 1.67 บาท

แนวรับ 1.65 บาท           แนวต้าน  2.00 บาท

แนว cut loss หากใกล้จะหลุด 1.62 บาท

กราฟ EIC ดีดตัวขึ้นทำให้รูปแบบรายวันเป็น Positive Flag ซึ่งการตัดขึ้นนี้ทำให้เกิดการพลิกกลับของสัญญาณ W-shape อีกครั้ง  และยืนยันการเกิด Divergence ใน RSI คาดว่าราคาจะไต่ระดับต่อได้ มีแนวต้านสำคัญ 2 บาท แนะนำเก็งกำไร

 

MCS   ราคาปิด 9.60 บาท

แนวรับ 9.50 บาท           แนวต้าน  10.50 บาท

แนว cut loss หากใกล้จะหลุด 9.20 บาท

กราฟ MCS  ดีดตัวขึ้นอีกครั้งหนึ่งหลังจากพักตัวเมื่อวานนี้  การดีดตัวขึ้นในที่ต่ำของกราฟส่งผลให้เครื่องมือ Parabolic เกิด Buy signal อีกครั้งหนึ่ง และจะทำให้ราคาหุ้นเดินหน้าไต่ระดับขึ้นต่อเนื่องมีโอกาสสร้าง new high ได้ไม่ยาก  แนะนำซื้อ

 

เด็กแนว

CSS  ผลกำไรประกาศออกมาแล้วถือว่าน่าพอใจท่ามกลางเศรษฐกิจแบบนี้ โดยครึ่งแรกคว้ากำไรไป 100% จากงานวางเสาส่งในมือที่ทำตามแผนได้อย่างดี และเหลืองานในมือของเก่าอีก 1.3 พันล้านบาทที่จะส่งมอบ ยังไม่นับงานใหม่จากกลุ่ม ICT ที่จะได้มาในตอนหลัง รวมทั้ง 4 Gปีหน้าด้วย  มองดูกำไรในปีนี้ทุบสถิติไม่ยาก  ยังไม่นับการบุกเข้าไปในธุรกิจพลังงานทางเลือกที่บริษัทวางแผนไว้ตั้งแต่ต้นปี นอกจากนี้เตรียมรอรับข่าวใหญ่ หลังคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติเห็นชอบแผนพลังงานทางเลือกเพิ่มขึ้นจากเดิม โดยเฉพาะแผนการประหยัดพลังงานที่จะให้มีการเปลี่ยนอุปกรณ์และหลอดไฟเป็น LED ทั่วประเทศมูลค่าหลักหมื่นล้านบาท ซึ่ง CSS เป็นหนึ่งในผู้วางระบบที่มีงานการเปลี่ยนหลอดไฟนี้ในมือด้วย จึงรับประโยชน์เต็มๆ ถือว่ามีงานใหญ่รอลุ้นอยู่ สำหรับผลประกอบการทั้งปีหากคาดว่ากำไรเติบโตขึ้นแบบ conservative ที่ 15% จะทำให้กำไรปีนี้เฉียด 300 ล้านบาท มีเป้าราคาเหมาะสมไม่ต่ำกว่า 5.20 บาท แต่ถ้าได้งานใหญ่เพิ่มรวมทั้งความชัดเจนด้านทำพลังงาน เป้าราคาต้องไปไกลกว่านี้อีกบาน

 

สัญญาณกราฟถือว่าได้จังหวะเวลาที่เหมาะสม เพราะกราฟอยู่ในระดับ low และกำลังยกระดับขึ้นจากแนว double bottom เพื่อขึ้นไปทดสอบแนว parabolic ที่ 5 บาท ขณะที่ MACD เกิดสัญญาณซื้อ  โดยหากผ่าน 5 บาทจะยืนยัน W-shape อย่างชัดเจน แนะนำซื้อเก็งกำไรกันหน่อย

Back to top button