สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 มิ.ย. 2563
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 มิ.ย. 2563
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 มิ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมทั้งมุมมองบวกที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะเพิ่มขึ้นก็ตาม นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคาดหวังว่า สภาคองเกรสสหรัฐจะอนุมัติแผนการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงินเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,024.96 จุด เพิ่มขึ้น 153.50 จุด หรือ +0.59% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,117.86 จุด เพิ่มขึ้น 20.12 จุด หรือ +0.65% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,056.47 จุด เพิ่มขึ้น 110.35 จุด หรือ +1.11% โดยดัชนี Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และทำสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 7
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (22 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในเยอรมนีและในประเทศอื่นๆ ซึ่งทำลายความหวังที่จะเห็นเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากผลกระทบของโรคระบาดดังกล่าว
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.76% ปิดที่ 362.70 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,948.70 จุด ลดลง 30.74 จุด หรือ -0.62%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,262.97 จุด ลดลง 67.79 จุด หรือ -0.55% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,244.62 จุด ลดลง 47.98 จุด หรือ -0.76%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (22 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกจะทำให้มีการล็อกดาวน์มากขึ้น และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจตามมา
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,244.62 จุด ลดลง 47.98 จุด หรือ -0.76%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 มิ.ย.) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า ภาวะเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐและทั่วโลกจะฟื้นตัวขึ้น หลังรัฐบาลประกาศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อเปิดเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากนักวิเคราะห์ของ BofA Global Research ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 2.3% ปิดที่ 40.73 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ หรือ 2.1% ปิดที่ 43.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐและทั่วโลกพุ่งขึ้น นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาและการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 13.40 ดอลลาร์ หรือ 0.76% ปิดที่ 1,766.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 5.5 เซนต์ หรือ 0.31% ปิดที่ 17.902 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 16.4 ดอลลาร์ หรือ 1.98% ปิดที่ 843.7 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 33.70 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 1,942.10 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังมีรายงานพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในสหรัฐ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงด้วย
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.6% สู่ระดับ 97.037 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9474 ฟรังก์ จากระดับ 0.9516 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3524 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3604 ดอลลาร์แคนาดา แต่เมื่อเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 106.92 เยน จากระดับ 106.86 เยน
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1260 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1186 ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2471 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2355 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6917 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6848 ดอลลาร์