PLANB บวกเฉียด 5% โบรกฯ ชูดาวเด่นกลุ่ม เคาะเป้า 7.80 บ. ชี้ผลงานครึ่งปีหลังฟื้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB ล่าสุด ณ เวลา 14.52 น. อยู่ที่ 6.45 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 4.88% สูงสุดที่ 6.55 บาท ต่ำสุดที่ 6.05 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 174.86 ล้านบาท

ทั้งนี้ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ยอดโฆษณาของไทย (ไม่รวมสื่อดิจิทัล) ในเดือนพฤษภาคม 2563 อยู่ที่ 5.9 พันล้านบาท (ลดลง 4% เมื่อเทียบจากเดือนก่อน และ 33% เมื่อเทียบจากปีก่อน) โดยเป็นการชะลอตัวลงทุกสื่อทั้งเมื่อเทียบจากเดือนก่อน และเมื่อเทียบจากปีก่อน ยกเว้นสื่อวิทยุที่ทรงตัวเมื่อเทียบจากเดือนก่อน และคาดว่ายอดโฆษณาในไตรมาส 2/63 จะลดลงทั้งเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และเมื่อเทียบจากปีก่อน เพราะยอดโฆษณาในช่วงสองเดือนแรกของไตรมาส 2/63 (เมษายน – พฤษภาคม) คิดเป็นสัดส่วนเพียง 46% ของยอดโฆษณารวมในไตรมาส 2/63 และ 50% ของยอดโฆษณาในไตรมาส 1/63 เท่านั้น

ทั้งนี้เมื่อพิจารณาจากหุ้นกลุ่มสื่อที่บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ดูแลอยู่ คิดว่า PLANB จะฟื้นตัวโดดเด่นในปี 2564 เพราะเป็นปีแรกที่ PLANB จะรับรู้รายได้อย่างเต็มปีจากจอโฆษณาในร้าน 7-Eleven และรายได้จากค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการป้ายโฆษณาของ MACO

ขณะที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากกิจกรรมการตลาดแบบมีส่วนร่วม (ไทยพรีเมียร์ ลีก และ BNK 48) และรายได้จากโครงการใหม่ (โอลิมปิก โตเกียว) ซึ่งเลื่อนจากปีนี้ไปปีหน้า ยังคงน้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มสื่อที่ “น้อยกว่าตลาด” โดยเลือก PLANB ราคาเป้าหมาย 7.80 บาท เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม

ส่วน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คงน้ำหนักการลงทุนกลุ่ม Media ที่ “น้อยกว่าตลาด” และเลือก PLANB เป็น Top Pick บริษัท นีลเส็น (ประเทศไทย) รายงานภาพรวมเม็ดเงินโฆษณาเดือน พ.ค. ที่ผ่านมาว่าอุตสาหกรรมโฆษณาของไทยชะลอตัว 32.7% เมื่อเทียบจากปีก่อน และ 4.4% เมื่อเทียบจากเดือนก่อน โดยมีเม็ดเงินรวมประมาณ 5,933 ล้านบาท (Fig 1) ซึ่ง Ad expenditure ลดลงในทุกสื่อ ยกเว้นสื่อ Internet ทั้งนี้ สื่อที่ปรับตัวลงสูงสุดเรียงลำดับจากมากไปน้อย คือ cinema, in-store, print, cable/satellite, TV, และ Outdoor & transit

ทั้งนี้ ประเมินผลประกอบการกลุ่ม Media ในไตรมาส 2/63 ลดลงเมื่อเทียบจากปีก่อน และเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และคาดว่าเป็นจุดต่ำสุดของปี โดยเม็ดเงินโฆษณาที่ชะลอตัวจากผลกระทบของ COVID-19 โดยกลุ่มหลักที่ได้รับผลกระทบคือ TV, cinema และ Out of Home เนื่องจากผู้ประกอบการ FMCG ลดการใช้งบโฆษณา จากกำลังซื้อที่ชะลอตัวลงตามสภาวะเศรษฐกิจ อีกทั้งกลุ่มผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ยังเผชิญกับการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง เราชอบกลุ่ม  Out of Home (OOH) มากกว่า

โดยคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวที่เร็วกว่ากลุ่ม TV เลือก PLANB เป็น top pick สำหรับกลุ่ม Media เนื่องจาก PLANB มี Valuation ถูกเมื่อเทียบกลุ่ม เทรด 2021E PER 25.9x ต่ำกว่า peer ที่ 2021E PER 43.1x และยังเชื่อว่า PLANB จะเป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเม็ดเงินโฆษณาที่ฟื้นตัวกลับมาในครึ่งปีหลังปี 2563 เนื่องจากมีเครือข่ายสื่อนอกบ้านที่ครอบคลุม