หายตกใจ ?
*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยช่วงนี้อาจมีเรื่องทำให้หงุดหงิดใจหลายอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรที่ทำให้ทุกข์ระทมตลอดกาล ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกฉวัดเฉวียนไปตามข่าวสารที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ก่อนจะขยับก้นขึ้นอย่างช้า ๆ ตามการกระเตื้องขึ้นของภาวะเศรษฐกิจนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องเข้าใจเกมที่เกิดขึ้นมันมาจากประเด็นอะไร และเรื่องดังกล่าวจะกัดกร่อนความมั่นใจเนิ่นนานขนาดไหนเจ้าค่ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยช่วงนี้อาจมีเรื่องทำให้หงุดหงิดใจหลายอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรที่ทำให้ทุกข์ระทมตลอดกาล ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกฉวัดเฉวียนไปตามข่าวสารที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ก่อนจะขยับก้นขึ้นอย่างช้า ๆ ตามการกระเตื้องขึ้นของภาวะเศรษฐกิจนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องเข้าใจเกมที่เกิดขึ้นมันมาจากประเด็นอะไร และเรื่องดังกล่าวจะกัดกร่อนความมั่นใจเนิ่นนานขนาดไหนเจ้าค่ะ
*หากเข้าใจได้ดังนี้จะเห็นท่าทีพวก “กองทุน” กับ “ฝรั่ง” ได้ดีขึ้น และสามารถอธิบายเหตุผลที่ทำให้ดัชนีประคองตัวปิดไปที่ระดับ 1,356.43 จุด บวกไป 4.25 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.90 หมื่นล้านบาท รวมทั้งยุทธการเตะตัดขาของผู้มีอำนาจในธปท. ก็เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องอยู่ให้เป็น เพื่อก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง และหน้าประวัติศาสตร์ของตลาดหุ้นไทยก็คงจารึกวีรกรรมชิ้นโบว์ดำไว้อีกหนึ่งบรรทัดเท่านั้นเองจ้า!
*ในเมื่อทุกคนหายจากอาการตกใจแบบสุดขีด คงต้องมาดูระบบเศรษฐกิจโลกจะหมุนไปทางไหน ซึ่งบางคนมองว่ายังอยู่ในช่วงของการถดถอย และมีการพูดเสริมเติมเข้าไปอีกว่าไตรมาส 4 เผาจริง ขณะที่บางฝ่ายกลับมองเห็นโอกาสฟื้นตัวมีมากกว่า โดยเที่ยวนี้จะได้พี่เบิ้มแห่งเอเชียอย่างประเทศจีนเป็นคนนำพาเศรษฐกิจฟากเอเชียโตกระหึ่ม จึงทำให้ต่อจากนี้ไม่ต้องง้อประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกาไงล่ะคะ
*เรื่องนี้สอดคล้องกับประเด็นข่าวช่วงเช้าวานนี้ ซึ่งมีการอ้างคำพูดที่ปรึกษาของ “เฮียทรัมป์” ในลักษณะที่ว่าได้ตัดสินใจเลิกค้าขายกับประเทศจีน แต่สุดท้ายก็ออกมาแก้ลำใหม่ว่าน่าจะเป็นการสื่อสารผิด และการเจรจาทางการค้ายังคงดำเนินต่อไป! ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเด้งกลับมาเขียวปี๋กันเป็นแถว พร้อมกับทำให้ภาพบรรยากาศสวยงามในวันเก่า ๆ กลับมาวิบวับอยู่ในสมองอีกครั้งนะนายจ๋า!
*น่าเสียดายที่แรงซื้อกลับมาเที่ยวนี้เป็นลักษณะซื้อคืนช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ส่งผลให้การวิ่งขึ้นของหุ้นแบงก์สายเขียว KBANK ไม่เต็มสปีดเหมือนเช่นก่อนหน้านี้ วานนี้ถึงเห็นหุ้นยืนปิดได้แค่ระดับ 89 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 0.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.64 พันล้านบาท ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้นักเล่นต้องคิดมากก่อนจะเข้าไปรับเผือกร้อน เดี๊ยนถึงต้องออกโรงบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นไงล่ะคะ
*เรื่องนี้เหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นกับหุ้น AOT ค่อนข้างชัดเจน เพราะโดนบรรดากองทุน “หัวดำ หัวทอง” สาดหุ้นแบบไม่ปรานี จนราคาหุ้นทรุดตัวลงมาเรื่อย ๆ จนล่าสุดยืนปิดที่ระดับ 60.25 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 0.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.20 พันล้านบาท ทั้งที่สองสัปดาห์ก่อนยืนอยู่แถว 67 บาท “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่าไม่มีสตอรี่ที่จูงใจให้เล่นหุ้นต่อไป เลยไม่มีความจำเป็นต้องกอดหุ้นไว้ในพอร์ต จึงมีความเป็นไปได้ที่หุ้นจะลงต่อนะคะ
*ส่วนหุ้นแถวหน้าที่โดนจัดหนักในวันที่ทุกคนเขียวปี๋อย่าง SAWAD ถือเป็นช็อตที่ช็อกซีเนม่าสำหรับการเคาะขวาจริง ๆ เพราะในช่วงเช้าหุ้นบวกขึ้นไปถึง 1.75 บาท พอตะวันคล้อยหลังได้ไม่ทันไร กลับถูกมือดีถล่มขายออกมาไม่ยั้ง จนราคาหุ้นทรุดตัวลงมาปิดที่ 52.25 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 2.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.21 พันล้านบาทแบบนี้ มันเป็นช็อตที่ทำให้หุ้นเสียทรงไปเลยนะนายจ๋า!
*เช่นเดียวกับในรายของหุ้นดาวเทียม THCOM ถูกสาดลงมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยแบบนี้ มันเหมือนเป็นการดับฝันนักเล่นแบบไม่ทันตั้งตัว จึงกลายเป็นประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” อยากเม้าท์ถึงมากสุดในเที่ยวนี้ เพราะสตอรี่ที่เคยวาดฝันไว้ก่อนหน้านี้ ส่อแววจะไม่เป็นเหมือนดั่งหวัง เดี๊ยนถึงอยากให้บรรดาขาลุยมองราคาปิดที่ 4.90 บาท ลบไป 0.85 บาท หรือรูดติดฟลอร์ 15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 500 ล้านบาท บอกอะไรให้รู้บ้างเจ้าคะ
*ส่วนรายที่มาดีอย่างพี่อ้วก AUCT กลายเป็นทีเด็ดสำหรับพวกขาซิ่งเต็มตัว หลังราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 8.85 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 9.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 116 ล้านบาท เท่ากับเป็นตัวเร่งให้ทุกคนเชื่อว่าสินเชื่อมอเตอร์ไซค์ สินเชื่อรถยนต์ น่าจะกลายเป็นหนี้เสียเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้เข้าไปซื้อหนี้ถูก ขณะเดียวกันก็เป็นการเปิดโอกาสในการเบ่งกำไรเยอะขึ้นก็เท่านั้นเองค่ะ