SET พลิกปิดดิ่ง 23 จุด วิตกเศรษฐกิจทรุด หลังกนง.หั่นคาดการณ์ GDP เหลือ 8.1%

SET พลิกปิดดิ่ง 23 จุด วิตกเศรษฐกิจทรุด หลังกนง.หั่นคาดการณ์ GDP เหลือ 8.1% โดยดัชนีปิดตลาดวันนี้ ที่ระดับ 1,333.43 จุด ลบ 23 จุด หรือ 1.70% มูลค่าการซื้อขาย 6.09 หมื่นล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีปิดตลาดวันนี้ ที่ระดับ 1,333.43 จุด ลบ 23 จุด หรือ 1.70% มูลค่าการซื้อขาย 6.09 หมื่นล้านบาท

10 หุ้นกดดัชนีวันนี้

ด้าน นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวแดนบวกในภาคเช้า ก่อนจะพลิกกลับมาปรับลดลงแรงในช่วงบ่ายนั้น ปัจจัยหลักมาจากการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2563 ลงเหลือ 8.1% จากเดิมคาดลบ 5.3% ซึ่งนับเป็นระดับที่ค่อนข้างแรงพอสมควร ทำให้ตลาดมีมุมมองว่าเศรษฐกิจจะแย่กว่าที่ประเมินไว้ ประกอบกับตลาดหุ้นภูมิภาคกอ่อนตัวลงจากภาคเช้า และบางตลาดพลิกเป็นลบ จากความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกที่สองที่เริ่มเห็นสัญญาณในหลายประเทศ

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังมีแรงประคองจากหุ้นกลุ่มแบงก์ที่แบงก์ใหญ่ยังยืนบวกได้ แม้จะแผ่วตัวลงจากช่วงเช้า แต่ภาพรวมการลงทุนกลุ่มแบงก์ยังคงถูกกดดันจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ได้ลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปีนี้ค่อนข้างแรง และการขอให้แบงก์พาณิชย์งดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานปี 63 ทำให้มองว่า ธปท.ประเมินเศรษฐกิจไทยน่าจะได้รับผลกระทบหนักและฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่ประเมิน ทำให้มองว่าการลงทุนในหุ้นกลุ่มแบงก์ระยะกลางถึงยาวอาจยังไม่น่าสนใจเพราะแบงก์น่าจะเป็นกลุ่มที่ฟื้นตัวไดัช้าสุด

ส่วนแนวโน้มการซื้อขายวันพรุ่งนี้ (25 มิ.ย.) ภาพตลาดรวมน่าจะยังคงพักฐาน ขณะที่ยังต้องจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกสอง และการเปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO) ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในช่วงคืนนี้ด้วย พร้อมให้แนวรับที่ 1,330 และ 1,300 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,350-1,360 จุด

อนึ่ง ผลประชุมกนง.วันนี้ มีมติเอกฉันท์ ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปี เนื่องจากประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 63 มีแนวโน้มหดตัวกว่าที่ประมาณการไว้เดิม เนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รุนแรงกว่าที่คาดไว้ โดยปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย (GDP) ในปี 63 ลงเหลือ -8.1% จากเดิมคาด -5.3% ซึ่งนับเป็น GDP ที่ต่ำสุดในประวัติการณ์ ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงที่ไทยเกิดวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 40 พบว่า GDP อยู่ที่ -7.6%

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดันแรก ได้แก่

KCE     มูลค่าการซื้อขาย  3,356.66 ล้านบาท  ปิดที่   21.00 บาท เพิ่มขึ้น  1.30 บาท

KBANK   มูลค่าการซื้อขาย  3,257.40 ล้านบาท  ปิดที่   90.25 บาท เพิ่มขึ้น  1.25 บาท

MINT    มูลค่าการซื้อขาย  2,360.11 ล้านบาท  ปิดที่   20.90 บาท เพิ่มขึ้น  0.30 บาท

SCB     มูลค่าการซื้อขาย  2,124.59 ล้านบาท  ปิดที่   72.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

BBL     มูลค่าการซื้อขาย  2,025.87 ล้านบาท  ปิดที่  107.50 บาท เพิ่มขึ้น  1.50 บาท

ตลาดหุ้นเอเชีย

 

Back to top button