สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 25 มิ.ย. 2563
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 25 มิ.ย. 2563
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเกือบ 300 จุดเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนรุกซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศผ่อนคลายข้อกำหนดการลงทุนสำหรับภาคธนาคาร ขณะที่นักลงทุนจับตาธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตรียมเปิดเผยผลการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) ของธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,745.60 จุด เพิ่มขึ้น 299.66 จุด หรือ +1.18% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,083.76 จุด เพิ่มขึ้น 33.43 จุด หรือ +1.10% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,017.00 จุด เพิ่มขึ้น 107.84 จุด หรือ +1.09%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส และจากมาตรการสนับสนุนของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในการปล่อยกู้เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาดระดมทุน
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.72% ปิดที่ 359.74 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,918.58 จุด เพิ่มขึ้น 47.23 จุด หรือ +0.97%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,177.87 จุด เพิ่มขึ้น 83.93 จุด หรือ +0.69% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,147.14 จุด เพิ่มขึ้น 23.45 จุด หรือ +0.38%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) ตามทิศทางตลาดหุ้นยุโรปอื่นๆ ซึ่งได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเสนอเงินกู้สกุลเงินยูโรให้กับธนาคารกลางต่างๆ นอกเขตยูโรโซน เพื่อสนับสนุนตลาดระดมทุนท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,147.14 จุด เพิ่มขึ้น 23.45 จุด หรือ +0.38%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นายแลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของทำเนียบขาวกล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐจะไม่ล็อกดาวน์ประเทศรอบใหม่ แม้ยอดติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในหลายรัฐเพิ่มขึ้นก็ตาม
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 38.72 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 41.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของสกุลเงินดอลลาร์ยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาดทองคำ อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากข้อมูลแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่งยังคงเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 4.5 ดอลลาร์ หรือ 0.25% ปิดที่ 1770.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 22.5 เซนต์ หรือ 1.27% ปิดที่ 17.895 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.9 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ปิดที่ 802.7 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 43.40 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 1,845.10 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐ และสหภาพยุโรป (EU)
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.29% สู่ระดับ 97.4380 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.20 เยน จากระดับ 106.94 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9489 ฟรังก์ จากระดับ 0.9478 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3649 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3611 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1215 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1258 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2405 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2423 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6871 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6867 ดอลลาร์