ควานหาฐานต่อไป!

*หากดูรูปแบบการเคลื่อนตัวของดัชนีในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาจะเห็นว่าดัชนีพยายามเกาะฐานแนวรับ 1,300 จุดไว้ให้นานสุด จึงทำให้ดัชนีแกว่งตัวไปมาในกรอบ 1,310-1,350 จุดที่เหลือ พร้อมกับมีการตั้งคำถามจากผู้คนมากมายว่าดัชนีจะประคองตัวที่บริเวณนี้ได้นานแค่ไหน ? เพราะตัวแปรหลายอย่างที่ถาโถมเข้ามาในเวลานี้ ล้วนมีแต่เรื่องที่ทำให้นักเล่นไม่สบายใจเลยพับผ่าซิ!


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หากดูรูปแบบการเคลื่อนตัวของดัชนีในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาจะเห็นว่าดัชนีพยายามเกาะฐานแนวรับ 1,300 จุดไว้ให้นานสุด จึงทำให้ดัชนีแกว่งตัวไปมาในกรอบ 1,310-1,350 จุดที่เหลือ พร้อมกับมีการตั้งคำถามจากผู้คนมากมายว่าดัชนีจะประคองตัวที่บริเวณนี้ได้นานแค่ไหน ? เพราะตัวแปรหลายอย่างที่ถาโถมเข้ามาในเวลานี้ ล้วนมีแต่เรื่องที่ทำให้นักเล่นไม่สบายใจเลยพับผ่าซิ!

*เดี๊ยนในฐานะคนชอบเผือกไปหมดทุกเรื่อง จึงขอเม้าท์แบบไม่เกรงใจใครทั้งสิ้นว่า ในเมื่อภาพรวมยังไม่มีข่าวดีเข้ามากระตุ้นความเชื่อมั่น ดัชนีย่อมต้องควานหาฐานต่อไปแบบไม่มีกำหนด เพราะแรงซื้อที่ไหลเข้ามาในตลาดหุ้นเป็นลักษณะเก็งกำไรมากกว่าลงทุนยาว ผนวกกับยังมีความคาดหวังในเรื่องอัดฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ ดัชนีเลยแกว่งตัวรอข่าวจริงจะสัมฤทธิผลอย่างเป็นทางการเท่านั้นเองค่ะ

*ฉะนั้นการที่ดัชนีแกว่งตัวทั้งในแดนบวกและแดนลบ ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 1,349.44 จุด บวกไป 10.41 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.33 หมื่นล้านบาท ย่อมเป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับนักเล่นประเภทขวัญอ่อน “โมนิก้า” จึงอยากให้นักเล่นดูสถานการณ์ต่าง ๆ ไปทีละสเต็ป เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมการขึ้นของหุ้นบางตัวในช่วงผันผวน ล้วนมาจากตัวเลขกำไรเป็นแบ็กอัพสำคัญทั้งนั้น เลยอยากให้แฟนคลับทำความเข้าใจกับเรื่องนี้สักนิดหนึ่งเจ้าค่ะ

*คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น STA ทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 29.25 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 7.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.97 พันล้านบาท ก็ได้รับแรงหนุนจากบริษัทลูก STGT ที่ทำถุงมือยางจนเป็นล่ำเป็นสันกำลังจะเข้าเทรดวันนี้ และดูเหมือนกระแสตอบรับเที่ยวนี้ก็ค่อนข้างดี เลยทำให้คนส่วนใหญ่มองราคาไอพีโอที่ระดับ 34 บาท ไม่ใช่ปัญหาสำหรับการลากแบบโหด ๆ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับจับตาดูยุทธการเคาะขวารัว ๆ วันนี้จะสุดติ่งกระดิ่งแมวขนาดไหนพะย่ะค่ะ

*ร้อนแรงไม่เบาต้องยกให้ยักษ์ใหญ่อย่างกวงเจริญ KCE หลังวิ่งขึ้นแบบมาราธอนเป็นเวลานานถึง 3 เดือน จนวานนี้ขึ้นมายืนปิดที่ 23.70 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 3.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.88 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่ได้แรงหนุนจากผลงานที่น่าจะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สถานการณ์ของหุ้นเลยดีขึ้นเป็นลำดับ และเปิดโอกาสให้ไล่ราคากันอีกพักใหญ่นะคะ

*อีกรายที่น่าจับตาสุด “โมนิก้า” คงให้น้ำหนักไปที่หุ้น DOHOME เป็นรายถัดมาในทันที หลังเดินหน้าทำ all time high แบบไม่เหน็ดเหนื่อย จนวานนี้ขึ้นมายืนปิดที่ 11.40 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 9.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 335 ล้านบาท น่าจะเป็นจุดของการ take profit เสียที เพราะเมื่อดูจากผลงานในช่วงที่เหลือของปี 2563 ไม่ช่วยหนุนให้หุ้นขยับขึ้นไปไกลกว่านี้อีกแล้วนะจ๊ะ

*ประเด็นนี้เหมือนกับการเคาะสั้น ๆ ของหุ้นจับเสือใส่ถังพลังสูง ESSO ก็มีลักษณะออกไปในทางเล่นรอบชัดเจน “โมนิก้า” ถึงมองการพุ่งขึ้นมาปิดที่ 7.60 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 8.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 578 ล้านบาท คงมาได้แค่นี้จริง ๆ บวกกับเมื่อดูจากเหตุการณ์ม้วนตัวลงรอบก่อนที่บริเวณ 8 บาท ก็กลายเป็นประเด็นที่ทำให้เดี๊ยนรู้สึก “กังวล” มากกว่า “ฮึกเหิม” นะตัวเอง

*ในเมื่อมองเกมที่เล่นกันไม่ยาวขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ย่อมเล็งเป้าไปที่หุ้นวางระบบ CSS เพื่อชี้ให้เห็นทั้ง “ผลได้” และ “ผลเสีย” หากคิดจะลุยสุดซอยในจังหวะนี้ เพราะการวิ่งขึ้นมายืนปิดที่ 1.47 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 10.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 125 ล้านบาท มันมาจากการเก็งกันว่าน่าจะได้รับงานใหญ่จากภาครัฐ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจเทิร์นอะราวด์แบบเต็มตัวในปีหน้า..ส่วนจะเป็นจริงเหมือนกับที่มีการเก็งข่าวหรือไม่ คงต้องดูกันต่อไปเจ้าค่ะ

*ส่วนรายที่ดันขึ้นรอบใหม่อย่างหุ้นขนมหวาน AU ก็เป็นอีกหนึ่งช็อตที่นักเล่นต้องประเมินกันเอาเอง เพราะการขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลา 3 วันติด จนขึ้นมาปิดที่ระดับ 10 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 3.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 88 ล้านบาท ทำให้เชื่อว่าเที่ยวนี้จะดันกลับขึ้นไปหายอดเดิมบริเวณ 12 บาทอีกครั้ง ทั้งที่เห็นกันทนโท่ว่ามีแต่คนรัดเข็มขัดเต็มที่ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้..แล้วกำไรมันจะมาได้อย่างไร ?..ลองคิดดูซิคะ

Back to top button