สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 1 ก.ค. 2563
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 1 ก.ค. 2563
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (1 ก.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนมิ.ย.ซึ่งนักลงทุนมองว่า เฟดไม่ได้ให้รายละเอียดมากนักเกี่ยวกับแนวทางการสื่อสารให้ตลาดรับรู้เรื่องสัญญาณชี้นำทิศทางนโยบายการเงิน (Forward Guidance) อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ ขานรับความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,734.97 จุด ลดลง 77.91 จุด หรือ -0.30% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,115.86 จุด เพิ่มขึ้น 15.57 จุด หรือ +0.50% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,154.63 จุด เพิ่มขึ้น 95.86 จุด หรือ +0.95%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (1 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวความคืบหน้าในการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ และตลาดยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนและยูโรโซน
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.24% ปิดที่ 361.19 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,926.94 จุด ลดลง 9.05 จุด หรือ -0.18%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,260.57 จุด ลดลง 50.36 จุด หรือ -0.41% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,157.96 จุด ลดลง 11.78 จุด หรือ -0.19%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (1 ก.ค.) โดยถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ราคาบ้านเดือนมิ.ย.ของอังกฤษร่วงลงรายปีเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2555 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,157.96 จุด ลดลง 11.78 จุด หรือ -0.19%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ก.ค.) ขานรับสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ร่วงลงกว่า 7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 39.82 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 76 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 42.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 20 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (1 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำทะยานขึ้นเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 20.6 ดอลลาร์ หรือ 1.14% ปิดที่ 1,779.9 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 41.9 เซนต์ หรือ 2.25% ปิดที่ 18.218 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 16.8 ดอลลาร์ หรือ 1.97% ปิดที่ 834.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 36.20 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 1,930.70 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเทขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย หลังการเปิดเผยความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 รวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.19% สู่ระดับ 97.2120 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.49 เยน จากระดับ 107.98 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9464 ฟรังก์ จากระดับ 0.9475 ฟรังก์ แต่หากเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 1.3587 ดอลลาร์แคนาดา 1.3586 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1244 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1233 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2466 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2390 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.6913 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6897 ดอลลาร์สหรัฐ