สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 2 ก.ค. 2563
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 2 ก.ค. 2563
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 ก.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนมิ.ย. ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่า การฟื้นตัวของตลาดแรงงานจะเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจให้กลับมาขยายตัวอีกครั้ง อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์ลดแรงบวกในระหว่างวัน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,827.36 จุด เพิ่มขึ้น 92.39 จุด หรือ +0.36% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,130.01 จุด เพิ่มขึ้น 14.15 จุด หรือ +0.45% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,207.63 จุด เพิ่มขึ้น 53.00 จุด หรือ +0.52%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับความหวังเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 และการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในสหรัฐ ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังจากได้รับผลกระทบจากโรคระบาด แม้ว่าตลาดจะยังคงวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นก็ตาม
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 1.97% ปิดที่ 368.29 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,049.38 จุด เพิ่มขึ้น 122.45 จุด หรือ +2.49%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,608.46 จุด เพิ่มขึ้น 347.89 จุด หรือ +2.84% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,240.36 จุด เพิ่มขึ้น 82.40 จุด หรือ +1.34%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากข่าวความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 และการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโรคระบาด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,240.36 จุด เพิ่มขึ้น 82.40 จุด หรือ +1.34%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 ก.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนมิ.ย. ซึ่งช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่สอง หลังจากที่พุ่งขึ้น 1.4% เมื่อวันพุธ อันเนื่องมาจากตลาดขานรับตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ลดลงมากกว่าตัวเลขคาดการณ์คาดการณ์
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 83 เซนต์ หรือ 2.1% ปิดที่ 40.65 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.ปีนี้
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 1.11 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 43.14 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.ปีนี้
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นทั้งในสหรัฐและทั่วโลก
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 10.1 ดอลลาร์ หรือ 0.57% ปิดที่ 1,790 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 10.4 เซนต์ หรือ 0.57% ปิดที่ 18.322 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 2.8 ดอลลาร์ หรือ 0.34% ปิดที่ 831.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 3.1 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,927.60 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งถือเป็นสกุลเงินปลอดภัยและมีสภาพคล่องสูง ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบสองของโรคโควิด-19 ในสหรัฐและประเทศอื่นๆ
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.06% สู่ระดับ 97.2696 เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.55 เยน จากระดับ 107.49 เยน แต่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9457 ฟรังก์ จากระดับ 0.9464 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3578 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3587 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1234 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1244 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2463 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2466 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6922 ดอลลาร์ จากระดับ 0.6913 ดอลลาร์