BIG ปิดตลาดบวก 5% ลุ้นผลงานครึ่งหลังฟื้น-ดีมานด์กล้องโตต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BIG ปิดตลาดวันนี้อยู่ที่ระดับ 0.62 บาท ปรับตัวขึ้น 0.03 บาท หรือ 5.08% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 56.18 ล้านบาท

ทั้งนี้ นายธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ BIG เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่ราคาหุ้นที่แกว่งตัวผันผวนในวันนี้ อย่างไรก็ตามคาดว่า ผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้จะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก หลังเชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/63 จะเป็นจุดที่ต่ำที่สุดของปี ขณะที่ปัจจุบันเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของยอดขาย หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 70% จากช่วงที่มีการปิดร้านค้าชั่วคราว ตามมาตรการควบคุมการแพ่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

โดย ยอดขายที่ฟื้นตัวดีขึ้นมาจากการคลายมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้บริษัทฯ สามารถกลับมาเปิดร้านค้าได้ตามปกติ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการท่องเที่ยวในระยะทางใกล้ๆ ประมาณ 200 กิโลเมตร หรือขับรถเที่ยวเองได้ ขณะเดียวกันก็ได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศของภาครัฐอีกด้วย ซึ่งน่าจะส่งผลดีกับบริษัทฯ ในครึ่งปีหลังนี้

นอกจากนี้ยังมองว่ากล้อง Mirrorless ยังมีดีมานด์ที่เติบโตต่อเนื่อง เห็นได้จากช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ลูกค้าบางส่วนยังมีความต้องการซื้อเพื่อใช้ถ่ายทำวิดิโอ เพื่อโปรโมทเพจ, เว็บไซต์, การทำการตลาดของตัวเอง ซึ่งคุณภาพของกล้องดังกล่าวก็ถือว่ามีคุณภาพที่สูงกว่ากล้องโทรศัพท์มือถืออย่างมาก จึงทำให้เป็นสินค้าที่ยังขายดี

พร้อมกันนี้บริษัทฯ ได้เตรียมจัดงานเซลล์ในช่วงไตรมาส 3/63 ซึ่งเป็นงานอีเว้นท์ที่ถูกเลื่อนมาจากไตรมาส 2/63 เพื่อกระตุ้นยอดขาย รวมถึงในไตรมาส 4/63 อยู่ระหว่างติดตามความชัดเจนกับทางสมาคมธุรกิจการถ่ายภาพ ว่าจะมีการจัดงานโฟโต้แฟร์ “PHOTO FAIR” เหมือนเดิมหรือไม่

โดยในช่วงที่ผ่านมาแม้เรามีการขายผ่านออนไลน์เต็มตัว และมีการปรับกลยุทธ์การขาย โดยให้พนักงานขายไปสาธิตกล้องถ่ายรูปถึงบ้านลูกค้า ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดี แต่ด้วยกล้องถ่ายรูป ยังถือเป็นสินค้าที่ลูกค้ายังต้องการคำแนะนำจากพนักงานขายอย่างมาก ทำให้การขายกล้องถ่ายรูปผ่านออนไลน์น่าจะยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม โดยภายหลังจากที่มีมาตรการคลายล็อกดาวน์ก็ทำให้ยอดขายเริ่มกลับมา Recover ได้บ้างแล้ว

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 63 บริษัทฯ ยอมรับว่ายังไม่สามารถประเมินทิศทางได้ในขณะนี้ เนื่องจากเพิ่งเริ่มกลับมาเปิดหน้าร้านได้ตามปกติ ซึ่งยังต้องดูในหลายปัจจัยประกอบ โดยเฉพาะจำนวนคนที่เข้ามาใช้บริการในศูนย์การค้าว่าจะฟื้นตัวได้มากแค่ไหน แต่ขณะนี้ก็เริ่มเห็นการฟื้นตัวดีขึ้นแล้ว