Daily view (PM) – บล.กสิกรไทย

บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย สรุปทิศทางและแนวโน้มตลาดบ่ายนี้


เคาะกลยุทธ์ลงทุนบ่าย

สรุปภาวะตลาดเช้า

– SET Index แกว่งตัวในกรอบแคบบริเวณ 1,412-1,418 จุด ก่อนปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,416.66 จุด +2.74 จุด (+0.19%) ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 17,202.94 ลบ.

– Most Positive Impact: AOT (+0.91 จุด)/ U (+0.59 จุด)/ BH (+0.54 จุด)

– จุดสังเกต: หุ้นกลุ่ม Energy ยังคงเป็นกลุ่มหลักกดดันตลาดจากแนวโน้มราคาน้ำมันที่อ่อนแอ ขณะที่หุ้น AOT ที่รายงานผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง เป็นหุ้นหลักหนุนดัชนี

แนวโน้มตลาดบ่าย 

– “แกว่งตัวในกรอบ 1,410-1,420” ลุ้นทดสอบ 1,416 จุด อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นในช่วงบ่ายมีโอกาสแกว่งตัวในกรอบ 1,410-1,420 จุด เนื่องจากยังขาดปัจจัยบวกที่ชัดเจน หลัง GDP ไตรมาสที่ 2/58 เติบโต 2.8% ตามตลาดคาด และสภาพัฒน์ปรับลด GDP ปีนี้ลงมาอยู่ที่ 2.7-3.2% จาก 3.0-4.0% ขณะที่ความเสี่ยงต่อการปรับลดคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนยังเป็นปัจจัยลบกดดันการฟื้นขึ้นต่อท่ามกลางความกังวลต่อการชะลอตัวเศรษฐกิจจีนและการเริ่มขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ทั้งนี้ การฟื้นตัวขึ้นเป็นโอกาสแบ่งขายเพิ่มการถือเงินสดเพื่อสร้างความยืดหยุ่นทางกลยุทธ์ในระยะถัดไป (downside 1,370 และ 1,350) (แนวต้าน: 1,420 และ 1,425 // แนวรับ: 1,410 และ 1,400)

– หุ้นแนะนำภาคบ่าย: KTB (ราคาปัจจุบันซื้อขายที่เพียงมูลค่าทางบัญชี มีโอกาสได้ประโยชน์ในฐานะกลไกกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล, เป้าทางกลยุทธ์ 19.50 ตัดขาดทุน 16.90), ROBINS (รายได้ค่าเช่าช่วยค้ำยันงบ ขณะรอการบริโภคฟื้นตัว, เป้าทางกลยุทธ์ 42.00-44.00 ตัดขาดทุน 40.00) และ SAMART (ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/58 คาคาด และยืนยันการผ่านจุดต่ำสุดของผลประกอบการไปแล้วในไตรมาสแรก, เป้าทางกลยุทธ์ 23.00 ตัดขาดทุน 20.70)

– หุ้นใหญ่น่าสนใจเชิงกลยุทธ์: AOT CENTEL SCC CPN EGCO RATCH TTW

– หุ้นเล็กเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์: IRCP CHOW TRC SGP TPOLY EMC TTA CEN EPG (ตั้งตัดขาดทุน 3-5%)

คำแนะนำ

กลยุทธ์: “โมเมนตัมยังบวก แต่เพิ่มความระมัดระวัง” แม้เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของตลาดระยะสั้น แต่ในทางกลยุทธ์ การฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับ 1,420-1,440 จุด จะเป็นจุดที่เผชิญความเสี่ยงนการขายทำกำไร นักลงทุนระยะสั้นหรือผู้ซื้อที่ 1,380+/- หรือผู้ที่มีหุ้นมากควรแบ่งทำกำไรบางส่วน ผู้เก็งกำไรใช้ 1,395 เป็นจุดชะลอการลงทุน

 

Trading Idea 

– ผลกระทบจากการที่เงินบาทอ่อนค่า: (+)หุ้นที่ได้ประโยชน์อ CFRESH, HANA, SAPPE, TUF, SVI, DELTA, KCE / (-)หุ้นที่ได้รับผลเชิงลบคือ THAI และ AAV

– Opportunity day: 17 ส.ค. SAWAD MALEE ILINK MC TUF JMART JMT / 18 ส.ค. WHA ADVANC THCOM INTUCH FSMART BAFS SPALI / 19 ส.ค. ROBINS BANPU KTC PYLON TK SVI IRPC

 

ประเด็นจับตา/ติดตาม

– (-) การปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนของตลาดหลังงบไตรมาส 2/58

– (-) ทิศทางราคาน้ำมันที่ยังอ่อนแอและมีโอกาสร่วงลงทำจุดต่ำสุดใหม่ – ลบต่อราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน

Back to top button