เจาะรายตัว!โมนิก้าและทีมงาน
*วานนี้ “โมนิก้า” ยังเห็นแฟนคลับสาละวนอยู่กับการแกว่งตัวขึ้นๆ ลงๆ ของดัชนีตลอดทั้งวัน ทั้งที่จังหวะนี้เป็นจังหวะของการแบ่งแยกหุ้นขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก เพื่อกำหนดโพสิชั่นในการลงทุนให้ชัดเจนขึ้น มันเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งยวดไม่ใช่เหรอ? แต่ทำไมยังยึดติดกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง จนพลาดโอกาสทองในการ take profit ครั้งแล้วครั้งเล่าแบบนี้..โทษใครไม่ได้หรอก ยกเว้นโทษตัวเองนะจ๊ะ
*วานนี้ “โมนิก้า” ยังเห็นแฟนคลับสาละวนอยู่กับการแกว่งตัวขึ้นๆ ลงๆ ของดัชนีตลอดทั้งวัน ทั้งที่จังหวะนี้เป็นจังหวะของการแบ่งแยกหุ้นขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก เพื่อกำหนดโพสิชั่นในการลงทุนให้ชัดเจนขึ้น มันเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งยวดไม่ใช่เหรอ? แต่ทำไมยังยึดติดกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง จนพลาดโอกาสทองในการ take profit ครั้งแล้วครั้งเล่าแบบนี้..โทษใครไม่ได้หรอก ยกเว้นโทษตัวเองนะจ๊ะ
*เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงนี้เป็นการช่วงชิงความได้เปรียบในการเข้าทำแต่ละรอบ ยอดการซื้อๆ ขายๆ ของนักลงทุนแต่ละกลุ่มถึงเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ไม่มีใครกล้าซื้อหุ้นไปเรื่อยๆ และไม่มีใครกล้าขายหุ้นลูกเดียว “โมนิก้า” ถึงต้องย้ำกับแฟนคลับว่า วันนี้ซื้อหุ้น ไม่ได้ซื้อดัชนี และยุทธวิธีดันหุ้นเพื่อปล่อยของ ยังเป็นรูปแบบพื้นๆ ที่เห็นได้บ่อยเหลือเกินในห้วงเวลานี้นะคะ
*ฉะนั้นอย่าได้แปลกใจที่เห็นกองทุนหันมาขายหุ้นอีกรอบ ส่วนฝรั่งตาน้ำข้าวย้อนกลับเข้ามาซื้อ แต่แรงซื้อดังกล่าวยังไม่มากพอ ดัชนีถึงรูดลงมาปิดที่ 1,408.74 จุด ลบไป 5.18 จุด ด้วยมูลค่า 3.22 หมื่นล้านบาท ล้วนเป็นวัฏจักรเดิมๆ ที่พอหลับตาปุ๊บ ก็นึกภาพดังกล่าวออกปั๊บ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับลองไปนั่งทบทวนตัวเองอีกสักรอบว่า วันนี้จะเล่นเกมบุก หรือ เกมรับ เพราะผลลัพธ์ของเรื่องดังกล่าวต่างกันอย่างชัดเจนนะซี
*เหมือนกับการลงทุนในหุ้น PTT ต่อจากนั้นหันไปมอง PTTEP และลองแอบส่อง PTTGC พร้อมกับเล็งเป้าไปยัง TOP ไปๆ มาๆ ก็ได้ข้อสรุปเรื่องดังกล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลากลับทิศกลับทาง ยังมีปัจจัยลบคอยรบกวนตลอดเวลา ความหวังที่จะได้เห็นรีเทิร์นเป็นกอบเป็นกำ ยังเป็นเรื่องยากสุดจะบรรยาย เพราะทิศทางของหุ้นยังเป็นลักษณะ sideway down วันนี้ถึงได้แต่นั่งมองตาปริบๆ นะตัวเอง
*ตรงกันข้ามกับในรายของ IFEC พอทุกอย่างเป็นไปตามที่เคยให้ข่าวไว้ ตัวเลขกำไรเริ่มขยายตัวอย่างเห็นได้ชัด แรงซื้อจากนักลงทุนกลุ่มต่างๆ ก็หวนกลับเข้ามาอีกรอบ พร้อมกับจินตนาการไปถึงในช่วงไตรมาส 3 กับไตรมาส 4 จะเลิศหรูอลังการงานสร้าง หุ้นถึงกระชากขึ้นมาปิดที่ 10.40 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 13.70% ด้วยมูลค่า 980 ล้านบาท น่าจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการทะยานขึ้นรอบใหม่ และถ้าดูตามเนื้อผ้าที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้ ยังเป็นระดับที่นักเล่นสามารถเข้าซื้อได้สบายๆ นะจ๊ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ SUPER ทุกครั้งที่สตอรี่เรื่องพลังงานทางเลือกถูกจุดขึ้นมาทีไร มักเห็นหุ้นตัวนี้กระชากขึ้นแรงเป็นประจำ บวกกับมีการสร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการทำกำไรออกมาเป็นระลอก “โมนิก้า” ถึงเห็นหุ้นขยับขึ้นอย่างช้าๆ เป็นเวลาหลายวัน จนล่าสุดหุ้นขึ้นมาปิดที่ 1.74 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่า 360 ล้านบาท เทียบกับก่อนหน้านี้อยู่เหนือ 2 บาท มันเป็นจังหวะที่ต้องไหลตามน้ำแล้วนะคะ
*ในเมื่อรูปแบบของการเล่นเป็นลักษณะ “เปิดก่อน ได้ก่อน” TPIPL จึงกลายเป็นอีกหนึ่งช็อตที่ใครต่อใครพากันชำเลืองดูเป็นพิเศษ ช่วงแรกๆ ของการเคาะขวา ก็ยังเปาะๆ แปะๆ ไม่มีอะไรเป็นเนื้อเป็นหนัง แต่หลังจากนั้นค่อยๆ ไล่ราคาขึ้นมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายไปจบที่ราคา 2.36 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 8% ด้วยมูลค่า 1.14 พันล้านบาท แถมเป็นการปรับตัวขึ้น 3 วันติด น่าจะย่อตัวสักเล็กน้อย ก่อนจะเล่นกันต่อเจ้าค่ะ
*ส่วนที่ยังเล่นกันต่อทุกช็อต และกลายเป็นหุ้นที่ติดลมบนอย่างเต็มตัว “โมนิก้า” ต้องหันมามอง GL เป็นคิวถัดมาในทันที ล่าสุดทะยานขึ้นมาทำ new high ที่ระดับ 15.80 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่า 260 ล้านบาท เท่ากับเป็นการย้ำหัวหมุดว่า หุ้นตัวนี้มีพ่อยกแม่ยกตามเชียร์แบบเกาะติดขอบเวที หุ้นถึงทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงเป็นเวลายาวนานไงล่ะค่ะ
*อีกหนึ่งรายที่ “โมนิก้า” รู้สึก “ขึ้นทน ขึ้นนาน” เดี๊ยนขอหันไปมองสิ่งมีชีวิตเล็กๆ LIVE เพื่อเสนอไว้เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ชอบลงทุนอะไรยาวๆ นานๆ เพราะการคัมแบ็กเที่ยวนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ บวกกับพรายกระซิบเม้าท์ถึงแผนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งให้ฟังทุกวี่ทุกวัน วันนี้เลยถือโอกาสเม้าท์สักหน่อย เพราะการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 0.77 บาท บวกไป 0.02 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ย่อมสะท้อนให้เห็นว่า มีดีพอตัว..ทราบแล้วบอกต่อด้วยนะคะ
*เหมือนกับในรายของ WIIK ราคาหุ้นฉวัดเฉวียนเหลือเกินในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา “โมนิก้า” เข้าใจว่า เป็นผลมาจากตัวเลขกำไรในไตรมาส 2 ที่ออกมาค่อนข้างดี ทำให้กลุ่มนกรู้กระโจนเข้าใส่มือเป็นระวิง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการลองใจผู้ร่วมขบวนทัพ มีจิตใจที่อ่อนไหวเกินไปหรือเปล่า? ปฏิบัติการเขย่าเอาของถึงเกิดขึ้น และเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับคนที่มีใจแน่วแน่ เพราะหุ้นวิ่งขึ้นมาทำ new high ในรอบสัปดาห์ที่ระดับ 3.60 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่า 120 ล้านบาท และมีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่อีกนะจะบอกให้