ขึ้นตามชาวบ้าน
*ช่วงนี้ “โมนิก้า” เกิดอาการหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก หลังเห็นดัชนีทะยานขึ้นทั้งที่สถานการณ์รอบด้านส่อเค้าอาจสร้างปัญหาในภายภาคหน้า จึงมองเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นรกหูรกตาไปหมด พร้อมกับยืนยันเสียงแข็งว่ากล้าเล่นแรง ๆ ก็ต้องเผื่อเจ็บตัวไว้ด้วย เพราะการเด้งขึ้นของตลาดหุ้นไทยเที่ยวนี้ มันเป็นการขานรับข่าวอเมริกาอัดฉีดเงินเพื่อซื้อสินทรัพย์รอบใหม่ (จิตวิทยาลงทุน) นะจะบอกให้
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ช่วงนี้ “โมนิก้า” เกิดอาการหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก หลังเห็นดัชนีทะยานขึ้นทั้งที่สถานการณ์รอบด้านส่อเค้าอาจสร้างปัญหาในภายภาคหน้า จึงมองเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นรกหูรกตาไปหมด พร้อมกับยืนยันเสียงแข็งว่ากล้าเล่นแรง ๆ ก็ต้องเผื่อเจ็บตัวไว้ด้วย เพราะการเด้งขึ้นของตลาดหุ้นไทยเที่ยวนี้ มันเป็นการขานรับข่าวอเมริกาอัดฉีดเงินเพื่อซื้อสินทรัพย์รอบใหม่ (จิตวิทยาลงทุน) นะจะบอกให้
*ประเด็นดังกล่าวทำให้เดี๊ยนต้องออกมาเตือนแฟนคลับ อย่าได้เผลอใจไปกับแสงสีเขียว ๆ รวมทั้งท่าทีของผู้ซื้อหลักยังเป็นลักษณะ “ชักเข้า ชักออก” “โมนิก้า” เลยมองไม่เห็นมุมที่จะทำให้ตลาดหุ้นไทยไปต่อแบบมั่งคง ผนวกกับช่วงนี้เป็นช่วงเวลาของการประกาศงบแบงก์อย่างเป็นทางการ จึงเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดที่บอกให้นักเล่นขาประจำได้รู้ว่า ดัชนีควรขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,400 จุดจริงไหม ?
*ฉะนั้นการที่ดัชนียืนปิดในระดับ 1,354.31 จุด บวกไป 13.24 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.96 หมื่นล้านบาท ย่อมเป็นเรื่องทาง “เทคนิค” มากกว่า “พื้นฐาน” จึงต้องแยกแยะเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจน เพื่อทำให้การเล่นหุ้นตามกระแสมีความคล่องตัวมากขึ้น เพราะเมื่อดูผลสำรวจคนที่อยู่ในแวดวงต่างรู้สึกกังวลกันทั้งนั้น แต่ทันทีที่ดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวกเขียวปี๋ไปกว่า 200 จุด ก็ทำให้อาการ วิกลจริต..อุ๊ย..วิตกจริต หายเป็นปลิดทิ้งกันเลยทีเดียวเจ้าค่ะ
*โดยเฉพาะการดีดกลับของหุ้นลูกอ๊อด AOT ก่อนจะมายืนปิดที่ระดับ 55.25 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 1.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.87 พันล้านบาท เหมือนเป็นสัญญาณที่บอกให้รู้ว่า รอบใหม่ของหุ้นกำลังเกิดขึ้นแล้ว บรรดาขาลุยห้ามออกอาการอิดออดอีกต่อไปนั้น “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่นักเล่นต้องทำตัว VIVI (ไวไว) เหมือนเดิม เพราะสถานการณ์เที่ยวนี้ยากต่อการคาดเดาเหลือเกินนะตัวเอง
*คล้ายกับกรณีของพี่เทพ PTTEP บวกต่อเนื่องสองวันติด ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 95.25 บาท บวกไป 2.75 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.91 พันล้านบาท ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่สร้างความกดดันให้กับคนที่ต้องการเคาะขวา เพราะสองครั้งก่อนราคาหุ้นก็จอดป้ายตรงบริเวณนี้ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นเพิ่มความใส่ใจกับข้อมูลตรงนี้อีกนิดหนึ่ง เพื่อจะได้วางแผนทางหนีทีไล่ได้ทันเวลาเจ้าค่ะ
*คล้ายกับหุ้นขายไก่ TFG อย่างแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ราวสามสัปดาห์เพิ่งช่วยกันดันหุ้นขึ้นไปถึง 5.65 บาท ต่อจากนั้นก็โดนรินหุ้นออกมาไม่ขาดสาย จนหุ้นลงมานอนกองอยู่ที่ระดับ 4.50 บาท พร้อมกับเปิดปฏิบัติการไพรีพินาศรอบใหม่ด้วยการดันหุ้นภายในวันเดียวขึ้นไปถึง 4.92 บาท ก่อนจะปล่อยให้ร่วงผล็อยลงมาปิด 4.68 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 1.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 811 ล้านบาท คุณคิดว่าวันนี้เขาจะดันหนู..อุ๊ย..ดันหุ้น อีกไหมล่ะจ๊ะ
*สำหรับในรายของ RS อาจเป็นเรื่องตรงข้ามกับหุ้นที่ถูกเกริ่นนำมาทั้งหมด หลังแรงซื้อไหลเข้ามาไม่ขาดสาย จนราคาหุ้นยกฐานใหม่สูงขึ้นต่อเนื่อง จนวานนี้ขึ้นมายืนปิดที่ 17.60 บาท บวกไป 1.30 บาท หรือขึ้นไป 8% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 715 ล้านบาท พร้อมกับทำราคาสูงสุดในรอบ 1 ปี 1 เดือน กลายเป็นจังหวะที่ทำให้นักเล่นคาดหวังจะได้เห็นหุ้นขึ้นไปหายอดเดิมบริเวณ 20 บาทอีกครั้งนะจะบอกให้
*ประเด็นนี้ทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันไปมองหุ้นท้องฟ้าสีคราม SKY หลังรุกคืบไปยังธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับงานระบบเต็มสูบ ผนวกกับเส้นสายในทุกด้านก็แน่นปึ้กมากขึ้นเรื่อย ๆ “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่เห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 16.10 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 5.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 82 ล้านบาท เพราะทุกคนเห็นทิศทางการเติบโตที่ชัดเจนขึ้นกว่าเมื่อก่อนไงล่ะคะ
*นอกจากนี้ควรเหลือบดูเหาฉลามที่มาแบบเงียบ ๆ อย่างหุ้น III ก็จะดีไม่ใช่น้อย เพราะการลดสัดส่วนในบริษัทร่วมทุน แล้วเปิดช่องให้พาร์ตเนอร์อย่าง SKY เข้ามาถือหุ้นร่วมกัน ย่อมเป็นการเพิ่มโอกาสในการขยายพื้นที่ทำโลจิสติกส์อย่างมีนัยสำคัญ เพียงแต่เรื่องนี้ต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งถึงจะเห็นดอกเห็นผล เดี๊ยนถึงมองการกระตุกเล็ก ๆ ของราคาหุ้นในกระดานด้วยการปิดเสมอตัวที่ 4.38 บาท น่าจะมีคนเข้ามาทยอยเก็บของแล้วล่ะค่ะ