ผู้ว่าฯโอกลาโฮมา ติด “โควิด” รายแรกในกลุ่มผู้นำรัฐอเมริกา หลังร่วมกิจกรรมหาเสียง “ทรัมป์”

ผู้ว่าฯโอกลาโฮมา ติด “โควิด” รายแรกในกลุ่มผู้นำรัฐอเมริกา หลังร่วมกิจกรรมหาเสียงของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ที่เมืองทัลซา


สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า เควิ สติตต์ ผู้ว่าการรัฐโอกลาโฮมาของสหรัฐฯ กล่าวว่าเขามีผลทดสอบโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เป็นบวก กลายเป็นผู้ว่าการรัฐคนแรกที่ออกมายืนยันการติดเชื้อต่อสาธารณชน นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดในประเทศ

“ผมเข้าทดสอบโรคโควิด-19 เมื่อวานนี้ และผลลัพธ์ออกมาเป็นบวก ผมรู้สึกสบายดี มีอาการปวดร่างกายเล็กน้อยเมื่อวานนี้” ผู้ว่าการรัฐเควิน สติตต์ กล่าวกับผู้สื่อข่าว

ผู้ว่าการรัฐฝ่ายรีพับลิกันรายนี้ กล่าวว่า เขาแยกตัวเองออกห่างจากสมาชิกครอบครัวคนอื่น และทำงานจากที่บ้าน

ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า สติตต์เป็นผู้นำการประชุมคณะกรรมาธิการสำนักงานที่ดินเมื่อวันอังคาร (14 ก.ค.) เขาปล่อยให้หน้ากากอนามัยตกอยู่บริเวณคอแทนที่จะปิดปาก ในระหว่างเป็นเจ้าภาพการประชุมและตอบคำถามของผู้สื่อข่าวหลังจากนั้น

แม้ว่าจะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่สติตต์ไม่คิดว่าจำเป็นต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ในรัฐอีกครั้ง และกล่าวว่า “การย้อนกลับไปและขังตัวเองในบ้านไม่ทำให้ไวรัสหายไปได้” อีกทั้งเขายังไม่สนใจที่จะเลื่อนการเปิดธุรกิจในรัฐออกไป “ยังเร็วเกินไปที่จะคิดเรื่องการชะลอตัวหรือย้อนกลับไปใช้มาตรการเดิม”

ทั้งนี้ รัฐโอกลาโฮมามีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จัดกิจกรรมหาเสียงที่เมืองทัลซาในวันที่ 20 มิ.ย. ซึ่งสติตต์ก็เข้าร่วมด้วย โดยกระทรวงสาธารณสุขของรัฐโอกลาโฮมามีรายงานผู้ป่วยรวมจำนวน 21,783 ราย นับถึงวันอังคาร (14 ก.ค.) เพิ่มขึ้น 993 รายเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า ส่วนยอดผู้เสียชีวิตขยับถึง 428 ราย

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงในท้องถิ่นกล่าวว่ายอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในทัลซา อาจเชื่อมโยงกับกิจกรรมหาเสียงของทรัมป์ รวมถึงการประท้วงต่อต้านที่เกิดขึ้นในเวลานั้น

บรูซ ดาร์ต กรรมการบริหารสำนักสาธารณสุขของทัลซา กล่าวระหว่างการแถลงข่าวในวันที่ 8 ก.ค. ว่า ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ทัลซามีผู้ป่วยเกือบ 500 ราย และเพิ่งมีงานใหญ่หลายงานเมื่อช่วง 2 สัปดาห์ก่อน “ผมคิดว่าเราค้นพบความเชื่อมโยงแล้ว”

Back to top button