“โควิด” กระทบ “อุตฯเครื่องหนัง” วอนรัฐหามาตรการ หนุนผู้บริโภค ใช้สินค้าในปท. ทดแทนส่งออก
“โควิด” กระทบ "อุตฯเครื่องหนัง" วอนรัฐหามาตรการ หนุนผู้บริโภค ใช้สินค้าในปท. ทดแทนส่งออก
นายสุวัชชัย วงษ์เจริญสิน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมหนังและผลิตภัณฑ์หนัง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และนายกสมาคมอุตสาหกรรมฟอกหนังไทย เปิดเผยว่า ธุรกิจอุตสาหกรรมหนังและผลิตภัณฑ์หนังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะต้องพึ่งพาการส่งออกถึง 70%
“ต้องยอมรับว่า อุตสาหกรรมหนังและผลิตภัณฑ์หนังได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะเราพึ่งพิงการส่งออกเป็นหลัก ดังนั้น สิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลสนับสนุน คือ การส่งเสริมให้ผู้บริโภคใช้สินค้าในประเทศมากขึ้น รวมทั้งต้องมีแผนสำรอง หากห่วงโซ่อุปทาน หรือ Supply Chain ตั้งแต่กระบวนการจัดหาวัตถุดิบ การผลิต การจัดเก็บสินค้า การจัดจำหน่าย รวมถึงการขนส่งถึงมือผู้บริโภค อาจจะประสบปัญหาหยุดชะงัก นอกจากนี้ รัฐบาลควรส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อและการจับจ่ายใช้สอย และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการใช้วัตถุดิบในประเทศ เพื่อลดค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ไม่จำเป็น และเพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้สินค้าที่ดีมีคุณภาพอีกด้วย” นายสุวัชชัย กล่าว
นายสุวัชชัย กล่าวว่า แม้ว่าขณะนี้การแพร่ระบาดในประเทศไทยจะมีแนวโน้มดีขึ้น มีผู้ติดเชื้อน้อยลง และที่ผ่านมารัฐได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์มากขึ้น โดยคาดการณ์ว่าจะต้องใช้เวลาถึง 18 เดือน กว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติตามการฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจ แต่ภาพรวมของเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้เร็วแค่ไหน ต้องขึ้นอยู่กับกำลังซื้อของผู้บริโภคเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ จากข้อมูลของศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร ระบุว่า ในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยส่งออกหนังดิบและหนังฟอกคิดเป็นมูลค่า 20,684.16 ล้านบาท โดยส่งออกไปยังประเทศเวียดนามสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยมูลค่าส่งออก 7,477.85 ล้านบาท ตามมาด้วยจีนที่มีมูลค่าส่งออก 3,129.82 ล้านบาท และฮ่องกงอยู่ในอันดับที่ 3 ด้วยมูลค่าส่งออก 2,391.76 ล้านบาท ขณะที่มูลค่านำเข้าหนังดิบและหนังฟอกอยู่ที่ 17,736.98 ล้านบาท ซึ่งไทยนำเข้าหนังดิบและหนังฟอกจากต่างประเทศ โดยนำเข้าสูงสุดจากอาร์เจนตินา, สหรัฐอเมริกา และอุรุกวัย