ปรับไปก็ไม่จบ

ดูท่าทีประยุทธ์ การปรับคณะรัฐมนตรีคงจบในไม่กี่วันนี้ เพียงยังไม่รู้จะเป็นที่พึงพอใจของพรรคพลังประชารัฐไหม และสังคมยอมรับได้หรือเปล่า


ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

ดูท่าทีประยุทธ์ การปรับคณะรัฐมนตรีคงจบในไม่กี่วันนี้ เพียงยังไม่รู้จะเป็นที่พึงพอใจของพรรคพลังประชารัฐไหม และสังคมยอมรับได้หรือเปล่า

เพราะตามข่าวที่ปล่อยกระจาย พปชร.เสนอให้ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สะด๊วบเก้าอี้พลังงาน คุมโปรเจกต์แสนล้าน อนุชา นาคาศัยแทนเก้าอี้อุตสาหกรรม นฤมล บิ๊กอาย สวมแหวนแก้วขนเหล็กนั่งประจำสำนักนายกฯ สุชาติ ชมกลิ่น ต้องการกระทรวงแรงงาน แต่นั่นเป็นโควตาพรรคกำนัน บางข่าวก็บอก “เสี่ยเฮ้ง” จะไปเป็นนักวิจัยและนวัตกรรม

เซอร์ไพรส์กว่านั้น ส.ส.ปรบมือสนั่น ดันพี่ป้อมเป็น มท.1 แย่งเก้าอี้น้องป๊อก โทษฐานไม่มีความสัมพันธ์กับ ส.ส.ในพรรค ไม่ต่างจากสี่กุมาร “ไม่มีไม่หนีไม่จ่าย” แต่จะว่าอนุพงษ์ไม่มี ก็คงไม่ใช่ มหาดไทยคุมเลือกตั้งทุกระดับ พปชร.ต้องการให้หัวหน้าพรรคยักแย่ยักยันมาสั่งการผู้ว่าฯ

อ้าว แล้วไหนล่ะ โควตาคนนอกคนดีคนเก่งของประยุทธ์ เหลือแค่รองนายกฯ กับ รมว.คลัง? แล้วถ้าประยุทธ์ไม่ยอม พลังประชารัฐจะว่าไง กระแสข่าวสับสนไปมา บ้างก็ว่าสุริยะหน้าเครียด อาจปิ๋วก็เป็นได้

ปัดโธ่ จะปิ๋วได้ไง กระทั่งไพบูลย์ นิติตะวัน ผู้ตั้งพรรคน้อมนำพระพุทธเจ้า มาสนับสนุนประยุทธ์ ครั้งนี้ก็ยังน้อมนำสุริยะ

พวกที่เพ้อฝันว่า ประยุทธ์จะตั้งคนดีคนเก่ง เทคโนแครต มากอบกู้เศรษฐกิจ นี่โง่ชัด ๆ ถามหน่อย ทำไมต้องปรับคณะรัฐมนตรี เพราะประยุทธ์ไม่พอใจผลงานสมคิดกับสี่กุมาร? หรือเพราะพวกนั้นโดนพลังประชารัฐไล่

เมื่อเป็นอย่างหลัง ถ้าประยุทธ์ยังแข็งขืน ใช้อำนาจตั้ง “ดรีมทีมใหม่” ก็ย่อมได้ เพราะที่ประยุทธ์เป็นนายกฯ ไม่ได้อาศัย ส.ส.เป็นสำคัญ อาศัย 250 ส.ว.เครือข่ายอำนาจ รัฐราชการตำรวจทหาร ศาล องค์กรอิสระ กระนั้นถ้า ส.ส.ไม่พอใจ แม้ไม่กล้าล้มรัฐบาล ก็จะป่วนไม่หยุด รัฐมนตรีคนนอกจะทำงานลำบาก เผลอ ๆ จะแพ้มติไม่ไว้วางใจ

ดังนั้น ประยุทธ์จึงมีไม่กี่ทางเลือก ยอมตาม พปชร. สังคมก็ส่ายหน้า ยิ่งไม่ไว้วางใจ, ตั้งทีมตัวเอง โดยไม่แยแสใคร ส.ส.ก็จะป่วนจนเละไปหมด หรือทางที่สาม ต่อรองกัน ซึ่งยังไม่รู้ลงเอยอย่างไร

การเมืองอย่างนี้หรือที่จะไปรับมือเศรษฐกิจ ที่แม้ทางจิตวิทยา ดูเหมือนทั้งโลกฮือฮา ว่าจะได้วัคซีน หุ้นขึ้นน้ำมันขึ้นพรวดพราด แต่เศรษฐกิจจริงยังอีกไกล ให้ไวที่สุดกว่าการท่องเที่ยวส่งออกจะกลับมาปกติก็ต้นปีหน้า เศรษฐกิจไทยที่ย่ำแย่เต็มทีจะพยุงได้แค่ไหนในช่วงนี้

คนตกงานก็ยังจะตกงาน ข่าวดีวัคซีนมีผลต่อการเก็งกำไร แต่อุตสาหกรรมที่ถดถอย อย่างรถยนต์ การ์เมนท์ หยุดยั้งไม่ได้ ธุรกิจบริการเงียบเหงาภายใต้ยาแรงโควิด

การเมืองในด้านความไม่พอใจรัฐบาล ก็มีแต่แรงขึ้น เพราะยังจะต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยอ้างเหตุที่ระยอง ทั้งที่มาจากความบกพร่องหละหลวมของ ศบค.

รัฐบาลพยายามลดกระแสให้ม็อบคนรุ่นใหม่ #เยาวชนปลดแอก เป็นเรื่องเล็ก ปลุกพลังต้านฐาน “ก้าวล่วง” แต่เครือข่ายอนุรักษ์นิยมก็รู้แก่ใจว่านี่เป็นพลังที่น่ากลัว เพราะกระแสคนรุ่นใหม่ ยกเจนเนอเรชั่นทั้ง Gen-Z บวก Gen-Y อายุ 15-30 ไปทางเดียวกันหมด แม้ฝ่ายอนุรักษ์จะคุมได้หมดทั้งปืนทั้งกฎหมาย

กระทั่งวันนี้ รัฐก็ยังอยู่ใน Dilemma คือถ้าเล่นงานม็อบสถานหนัก กวาดจับเหวี่ยงข้อหา ความไม่พอใจก็จะยิ่งลุกฮือ แต่ถ้าตั้งข้อหาแกนนำ ออกหมายเรียก ได้ประกัน พวกเขาไม่กลัวอยู่แล้ว

พลังต่อต้านแม้ล้มรัฐบาลไม่ได้ ก็จะกดดันไปตลอด โดยไม่ยอมแพ้เช่นกัน ไม่ต่างกับม็อบประชาธิปไตยฮ่องกง แต่จีนสามารถออก กม.ความมั่นคงโดยไม่แคร์โลก รัฐไทยทำตามได้หรือเปล่า

Back to top button