กดไม่ลง
*เดิมที “โมนิก้า” ตั้งใจพูดถึงแนวต้านซอยถี่ยิบในระหว่างทางที่ดัชนีไต่เพดานบินสูงขึ้น แต่คิดไปคิดมาพบว่าเสียเวลาในการมองเหตุการณ์วันต่อวัน เลยตัดสินใจพูดถึงแนวต้านใหญ่ที่ขวางตรงหน้า เพื่อให้นักเล่นมีเวลาเตรียมตัวทำอะไรบางอย่าง ขณะเดียวกันยังเป็นการบอกให้นักเล่นเข้าใจเกมหุ้นเที่ยวนี้เล่นกันดุเดือดเลือดพล่านขนาดไหนอีกด้วยนะจะบอกให้
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*เดิมที “โมนิก้า” ตั้งใจพูดถึงแนวต้านซอยถี่ยิบในระหว่างทางที่ดัชนีไต่เพดานบินสูงขึ้น แต่คิดไปคิดมาพบว่าเสียเวลาในการมองเหตุการณ์วันต่อวัน เลยตัดสินใจพูดถึงแนวต้านใหญ่ที่ขวางตรงหน้า เพื่อให้นักเล่นมีเวลาเตรียมตัวทำอะไรบางอย่าง ขณะเดียวกันยังเป็นการบอกให้นักเล่นเข้าใจเกมหุ้นเที่ยวนี้เล่นกันดุเดือดเลือดพล่านขนาดไหนอีกด้วยนะจะบอกให้
*เนื่องจากผู้เล่นหลายก๊วนได้เห็นแล้วว่าเวลาตลาดหุ้นต่างประเทศดี ตลาดหุ้นไทยก็ดีตามไปด้วย และในขณะเดียวกันก็พบว่า เมื่อตลาดหุ้นต่างประเทศแย่ ตลาดหุ้นไทยก็แย่ตามไปด้วย แต่มีสิ่งหนึ่งที่เชื่อถือได้ในเที่ยวนี้ คงเป็นเรื่องของแนวรับสำคัญบริเวณ 1,320 จุดยังมีแรงช้อนซื้อเข้ามารับหุ้นไม่ว่างเว้น ดัชนีถึงพยายามเทคตัวขึ้นตลอดเวลา เพื่อทดสอบแรงเทขายยังมีแยะขนาดไหนพะย่ะค่ะ
*ประเด็นดังกล่าวทำให้การวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,377 จุด บวกไป 18.71 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.42 หมื่นล้านบาท เป็นนิมิตรหมายที่ดีสำหรับการเคาะขวาสั้น ๆ ในวันถัดไป เพราะได้เห็นฐานแนวรับมีแรงซื้อไหลเข้ามาได้ชัดเจนขึ้นไปอีกขั้น และถ้ามองถึงการชิงจังหวะเล่นรอบทำกำไร “โมนิก้า” ย่อมทำตัวโอนอ่อนตามกระแสแบบไม่มีข้อแม้ เพราะของมันเห็นกันมาหลายรอบแล้วว่ากดหุ้นไม่ลงน่ะซี
*เหมือนกับหุ้นพานทองแท้ MINT พยายามตั้งฐานที่บริเวณ 20 บาทตลอดเวลา แถมในระหว่างทางเจอสาดหุ้นหนัก ๆ ตลอดเวลา แต่ก็กลับขึ้นมาได้อย่างแข็งแกร่งทุกที จนล่าสุดมีแรงซื้ออัดแน่นเข้ามาไม่ว่างเว้น หุ้นถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 20.30 บาท บวกไป 1.60 บาท หรือขึ้นไป 8.56% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.95 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่แมงเม่าควรใช้สิทธิ์เพิ่มทุน เพราะของมันแบเบอร์แล้วว่ารับโชค 3 เด้งไงล่ะคะ
*เช่นเดียวกับในรายของ PTT โดนทิ้งลงมาหนักเป็นเวลานานหลายสัปดาห์ พอได้จังหวะถีบตัวอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ก็รีบเด้งขึ้นอย่างร้อนแรงด้วยเช่นกัน จนการเคลื่อนตัวของหุ้นออกไปในโทน V-Shape อย่างชัดเจน “โมนิก้า” ถึงมองเป็นจังหวะของการ follow buy เพราะหุ้นกำลังขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 42 บาทอีกครั้ง ขณะที่วานนี้หุ้นปิดที่ระดับ 40.25 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 4.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.61 พันล้านบาท มันน่าเล่นจริง ๆ พะย่ะค่ะ
*ส่วนรายที่น่าเป็นห่วงในเที่ยวนี้กลายเป็นลูกอ๊อด ADVANC โดนกระหน่ำเทขายตลอดเวลา จนหุ้นโค้งตัวลงเรื่อย ๆ พร้อมกับลงไปหาจุดต่ำสุดครั้งก่อนที่บริเวณ 185-183 บาทเป็นประจำแบบนี้ “โมนิก้า” คงบอกได้แค่ว่า การยืนปิดที่ระดับ 187.50 บาท ลบไป 3.50 บาท หรือลงไป 1.83% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.71 พันล้านบาท ใช่ช็อตที่ต้องถอยฉาก เพื่อรอให้หุ้นตั้งฐานบริเวณแนวรับดังกล่าวหรือเปล่า..ลองถามใจเธอดูนะคะ
*เช่นเดียวกับในรายของ WHA พอราคาหุ้นตอบรับข่าวร้ายเป็นที่เรียบร้อย และราคาหุ้นเริ่มตั้งฐานได้ร่วมสัปดาห์ เมื่อสบช่องได้โอกาสทะยานขึ้นอย่างเป็นทางการ บรรดากองทุนก็เข้ามาตะลุยกันสุดซอยอีกครั้ง วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ 3.34 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 6.37% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 739.83 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่ต้องคิดต่อไปว่ากองทุนตัวแสบลุยต่อไหม ? หากเล่นต่อ หุ้นก็ไปแบบสวย ๆ นะคะ
*ด้าน BWG หลังจากราคาหุ้นซึมกะทือมาหลายวัน ล่าสุดได้โอกาสทะยานพรวดพราดขึ้นมาปิดที่ระดับ 0.71 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 7.58% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 142.37 ล้านบาท วอลุ่มซื้อขายแน่นปั้ก! แถมยังมีปัจจัยบวกสปินออฟบริษัทลูกเข้าตลาดฯ ปลายเดือนหน้า ทรงหุ้นมาดีปัจจัยบวกล้นขนาดนี้ จึงมีโอกาสวิ่งต่อไปได้อีกยาว ๆ แม้จะติดคุก Cash Balance ถึง 21 ส.ค.ก็ไม่หวั่น งานนี้ใครใส่เกียร์เดินหน้าก่อนได้เปรียบเจ้าค่ะ
*ปิดท้ายกันที่แบงก์ใหญ่อย่าง SCB แม้จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2 ออกมาลดลงเหลือ 8.3 พันล้านบาท แต่ราคาหุ้นก็ยังมีแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาอย่างคึกคัก ล่าสุดราคาขึ้นมาปิดที่ระดับ 73.75 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 2.79% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 934.75 ล้านบาท เมื่อดูจากผลงานที่ประกาศออกมาถือว่าดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้ จึงไม่แปลกที่จะได้เห็นนักวิเคราะห์หลายเจ้าแนะนำ “ซื้อ” อยู่ยังไงล่ะจ๊ะ