NDR แย้มตลาดยางฯเริ่มฟื้น พร้อมส่งงบโค้งแรกตามนัด 14 ส.ค.นี้

นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดยางรถจักรยานยนต์เริ่มกลับมาฟื้นตัวขึ้นจากครึ่งปีแรก โดยเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา แต่ทั้งนี้ยังต้องติดตามสถานการณ์แบบเดือนต่อเดือน ซึ่งหากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ไม่มีการระบาดเพิ่มเติม เชื่อว่าผลประกอบการในปีนี้จะเป็นบวกได้ ขณะที่รายได้คาดว่าน่าจะใกล้เคียงปีก่อนที่ทำได้ประมาณ 860 ล้านบาท

สำหรับแผนกลยุทธ์ในครึ่งปีหลัง บริษัทฯยังคงใช้มาตรการที่รัดกุมในเรื่องของการลงทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ส่วนเรื่องของรายได้ก็มีการทำการตลาดเจาะเฉพาะกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น พร้อมยังคงเฝ้าระวังและจับตาสถานการณ์ COVID-19 อย่างใกล้ชิด

กรรมการผู้จัดการ NDR กล่าวถึงแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 1/2563 ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างทำบัญชี คาดว่าจะนำส่งภายในวันที่ 14 สิงหาคม 2563 ตามที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ไปก่อนหน้า เนื่องจากบริษัทฯ มีความจำเป็นและเกิดขึ้นจากเหตุสุดวิสัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ของบริษัทย่อยในประเทศมาเลเซีย Fung Keong Rubber Manufactory (M) Sdn. Bhd. (FKRMM)

สืบเนื่องจากทางรัฐบาลของประเทศมาเลเซียได้ประกาศเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563 ให้มีการบังคับใช้มาตรการที่เรียกว่า Restriction of Movement Order (RMO) โดยมีระยะเวลาในการบังคับใช้มาตรการเริ่มตั้งแต่วันที่ 18-31 มีนาคม 2563 เพื่อควบคุมการระบาดของ COVID-19 ซึ่งมีการระบาดและลุกลามในหลายๆ พื้นที่ของประเทศมาเลเซีย ต่อมาเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2563 รัฐบาลของประเทศมาเลเซียได้มีการขยายระยะเวลาการบังคับใช้มาตรการ RMO จากเดิมกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 31 มีนาคม 2563 ไปเป็นสิ้นสุดวันที่ 14 เมษายน 2563

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ยังไม่ดีขึ้น เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2563 รัฐบาลประเทศมาเลเซียจึงได้ประกาศขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการ RMO อีกครั้ง โดยกำหนดให้สิ้นสุดในวันที่ 28 เมษายน 2563 ดังนั้น บริษัทย่อยของบริษัทฯ รวมถึง Grant Thornton Malaysia ซึ่งเป็นผู้สอบบัญชีของบริษัทย่อยในประเทศมาเลเซีย ไม่สามารถเดินทางไปปฏิบัติงานที่บริษัท และต้องหยุดการดำเนินกิจกรรมต่างๆ เป็นการชั่วคราว เริ่มตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม – 28 เมษายน 2563 ตามข้อกำหนดของมาตรการ RMO

ทั้งนี้ เนื่องจากการดำเนินธุรกิจของ NDR ในประเทศมาเลเซียถือว่ามีความสำคัญและคิดเป็นสัดส่วนรายได้ 37.64% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัทฯ ในปี 2562 ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่มีนัยสำคัญของการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม NDR