บลูชิพสตรอง
*ดูเหมือนช่วงนี้จะเกิดรายการ “หักปากกาเซียน” บ่อยมาก ชนิดที่หลายคนไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดที่ไหนนั้น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องปกติสำหรับตลาดหุ้นไทย และทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้สาเหตุที่ทำให้หุ้นไทยยืนหยัดในระดับสูงได้อย่างแข็งแกร่ง จึงอยากให้แฟนคลับทำใจยอมรับสภาพที่เกิดขึ้นแต่โดยดีพร้อมกับให้ทุกคนพึงระลึกไว้เสมอว่า ช่วงนี้เป็นเวทีของกองทุนที่ต้องการโชว์เพาเวอร์ให้ทุกคนเห็นพะยะค่ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ดูเหมือนช่วงนี้จะเกิดรายการ “หักปากกาเซียน” บ่อยมาก ชนิดที่หลายคนไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดที่ไหนนั้น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องปกติสำหรับตลาดหุ้นไทย และทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้สาเหตุที่ทำให้หุ้นไทยยืนหยัดในระดับสูงได้อย่างแข็งแกร่ง จึงอยากให้แฟนคลับทำใจยอมรับสภาพที่เกิดขึ้นแต่โดยดีพร้อมกับให้ทุกคนพึงระลึกไว้เสมอว่า ช่วงนี้เป็นเวทีของกองทุนที่ต้องการโชว์เพาเวอร์ให้ทุกคนเห็นพะยะค่ะ
*นอกจากนี้ยังอยากให้ทุกคนแยกแยะปัญหาเรื่อง “การเมือง” กับ “ตลาดหุ้น” ให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด เพื่อจะได้เห็นภาพม็อบฟรุ้งฟริ้งไม่ได้มีผลต่อการลงทุน แถมข้อมูลในอดีตก็ยังชี้ชัดลงไปอีกขั้นว่า ความสัมพันธ์ของเรื่องดังกล่าวมีน้อยมาก ๆ “โมนิก้า” ถึงไม่อยากให้แฟนคลับเอาหลายเรื่องมาปนกันในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยกำลังสะสมพลังเพื่อเดินหน้าขึ้นไปหาแนวต้านใหญ่บริเวณ 1,400 จุดนะจะบอกให้
*ฉะนั้นการที่หุ้นบลูชิพออกมาเฉิดฉายบนกระดานแบบละลานตา ก่อนจะช่วยกันประคองดัชนีปิดที่ระดับ 1,338.35 จุด ลบไป 2.57 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.61 หมื่นล้านบาท ย่อมเป็นเกมที่ม้าแก่ชำนาญทางคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี “โมนิก้า” จึงไม่มีความจำเป็นต้องอธิบายอะไรให้มากความอีกต่อไป เพราะสตอรี่ที่เอามาเล่นในช่วงนี้เน้นไปที่ “กำไรโต” ผสมผสานกับผลงาน “ดีกว่าคาด” ไงล่ะคะ
*โดยเฉพาะในกลุ่มของหุ้นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ต่างพาเหรดชักธงเขียวขึ้นสู่ยอดเสากันเป็นแถว จนทำให้เดี๊ยนตกตะลึงในความแข็งแกร่งที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้ ไล่เรียงมาตั้งแต่รายของ DELTA ทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงด้วยการขึ้นมาปิดที่ 103.50 บาท บวกไป 13.50 บาท หรือขึ้นไป 15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 898 ล้านบาท ท่ามกลางผลงานไตรมาส 2 โตระเบิด เลยไม่มีใครสนใจค่า P/E 42 เท่าแม้แต่คนเดียว เพราะคนทุกเชื่ออย่างสนิทใจว่า ไตรมาส 3 แจ่มได้อีกเจ้าค่ะ
*เฉกเช่นเดียวกับในรายของกวงเจริญ KCE ทะยานขึ้นมายืนที่ระดับ 29 บาท บวกไป 3.75 บาท หรือขึ้นไป 14.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.86 พันล้านบาท ก็มาในแนวเดียวกับรายข้างต้นที่เอ่ยถึง เดี๊ยนเลยไม่มีความจำเป็นต้องอธิบายอะไรให้มากความ เพราะวันนี้ปักใจเชื่อกันแล้วว่า ผลงานต่อจากนี้จะสตรองสุด ๆ และราคาที่เห็นในวันนี้ก็ต่ำกว่าที่หลายคนคาดการณ์ไว้เสียด้วย จึงต้องใส่กันสุดซอยไปเลยลูกเพ่ !
*อีกรายที่แรงไม่แพ้กัน และยังโชว์ของได้อีกเพียบ “โมนิก้า” ย่อมมองไปที่น้อง HANA เพื่อชี้ให้เห็นหุ้นไตรภาคีกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ต้องมีหุ้นตัวนี้บรรจุรวมอยู่ด้วย มิเช่นนั้นถือว่าไม่ครบองค์ ผนวกกับการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 36.50 บาท บวกไป 4 บาท หรือขึ้นไป 12.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 912 ล้านบาท เดี๊ยนเลยไม่ต้องเล่าอะไรให้ยืดเยื้อไปกว่านี้อีกแล้ว เพราะแค่ต้องรอดูว่า ผลงานจะแจ่มแมวไหม ? …อิอิอิ
*ส่วนหุ้นกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังที่มาแรงสุด ๆ ต้องยกให้หุ้นควายทอง CBG หลังกระชากขึ้นต่อเนื่องแบบไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรทั้งสิ้น ขนาดวันนี้เทรดบนค่า P/E 41 เท่า บรรดากองทุนก็ยังไม่ถอนคันเร่งสักที วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมายืนปิดที่ 126.50 บาท บวกไป 8.50 บาท หรือขึ้นไป 7.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.76 พันล้านบาทแบบชิล ๆ จึงอยากให้ทุกคนท่านมองกันเองว่า หุ้นควรจะไปหยุดตรงไหนนะจ๊ะ
*คล้ายกับกรณีของ OSP ทะยานขึ้นมาปิดที่ 44 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 5.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.65 พันล้านบาท เหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดให้ทุกคนรู้ว่า กระแสมาทางหุ้นเอนเนอร์จี้ดริงก์เป็นหลัก เพราะมีตัวเลขกำไรโตคอยหนุนหลัง “โมนิก้า” ถึงมองเรื่องที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้เกี่ยวข้องกับกระแสเป็นหลัก จึงอยากให้แฟนคลับตามสถานการณ์การเล่นเที่ยวนี้ให้ทันพะยะค่ะ
*ในเมื่อมองไปที่หุ้นทรงสวยขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงจับจ้องไปที่สุดเลิฟอย่างหุ้น EA เพื่อชี้ให้เห็นถึงสตอรี่เกี่ยวกับการเติบโตในอนาคตยังมีออกมาเรื่อย ๆ และเที่ยวนี้ก็เป็นการจัดใหญ่ไฟกะพริบเกี่ยวกับการสร้างเขื่อนเพื่อปั่นไฟฟ้าขนาดพันเมกฯ เดี๊ยนถึงเชื่อเหลือเกินว่า โครงการนี้จะเป็นการพลิกโฉมครั้งสำคัญของบริษัทอีกครั้งหนึ่ง (อาจใช้เวลานานหน่อย) เดี๊ยนถึงมองการขึ้นมาปิดที่ 48.75 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 782 ล้านบาท ยังน่าลงทุนเสมอเจ้าค่ะ