SET แกว่งกรอบแคบ-รอประเมินสถานการณ์สลับเล่น 8 หุ้นเด่นปันผลดี-พื้นฐานยังแกร่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.20 น. ค่าเงินบาทล่าสุดอยู่ที่ 35.56 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของจีน ขณะเดียวกันก็กำลังจับตาดูรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 28-29 ก.ค. ซึ่งคณะกรรมการเฟดจะเปิดเผยในวันพุธ ตามเวลาสหรัฐ เพื่อประเมินท่าทีของเฟดว่าจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวนและมีโอกาสรีบาวด์ในกรอบจำกัด โดยปัจจัยที่ต้องติดตามต่อจากนี้คือผลการแต่งตั้งคณะครม.ชุดใหม่ซึ่งคาดว่าจะหนุนความเชื่อมั่นต่อประเทศในสายตาต่างชาติได้ในระดับหนึ่ง ขณะที่คาดว่าต่างชาติยังคงมีแรงขายต่อเนื่อง

 สำหรับหุ้นเด่นวันนี้แนะสะสมหุ้นที่ได้รับผลกระทบน้อยและได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ ได้แก่  INTUCH, ADVANC, ILINK, FORTH, TVO, BTS, DELTA และ SVI

 

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (19 ส.ค.) SET เปิด Gap หลุดลงมาแรง โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,350-60 จุด ควรรอดูอาการที่แนวรับหลังความผันผวนระยะสั้นหมดไป โดยต้องรอให้แรงขายหุ้นขนาดใหญ่อย่าง PTT AOT KBANK เริ่มหมดไปก่อน

เหตุระเบิดส่งผลให้ Downside Risk ต่อเศรษฐกิจ กำไรบริษัทจดทะเบียน และ Sentiment ตลาดเปิดกว่างขึ้น ทำให้การปรับลดลงแรงของ SET เมื่อวานนี้ยังไม่ใช่จังหวะ Bottom Fishing ขณะที่กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากบาทอ่อนแนะนำ “เก็งกำไร” DELTA SVI

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (19 ส.ค.) ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ รีบาวด์แต่ยังผันผวน

คาดดัชนีวันนี้รีบาวด์แต่ยังผันผวน ดัชนีน่าจะฟื้นหลังลงหนักสะท้อนเหตุระเบิด 2 ครั้ง จนค่า Current P/E band ลงมาเหลือ 16 เท่า ผนวกหุ้นพลังงานน่าจะฟื้นตัว หลังราคาน้ำมันWTi รีบาวด์ 1.3% เมื่อคืนนี้และอีก 0.1% ในเช้าวันนี้ ด้านปัจจัยภายในประเทศนักลงทุนควรติดตามผลการปรับครม.อย่างเป็นทางการ หลังนายกฯทูลเหล้ารายชื่อครม.ใหม่เรียบร้อยแล้ว คาดอาจส่งผลบวกต่อความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจในประเทศ อย่างไรก็ดีด้วยเงินบาทที่ยังอ่อนค่าและเหตุรุนแรงที่เพิ่งเกิด คาดต่างชาติยังขายสุทธิหุ้นไทยต่อ คาดการรีบาวด์ยังจำกัดและยังคงผันผวนต่อ

หุ้นเด่นวันนี้  ILINK,FORTH

 

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์(19 ส.ค.) ขยับน้ำหนักการลงทุนเป็น “กลาง” อีกครั้ง แม้ว่า SET INDEX ยังมีโอกาสซึมตัวลงสู่แนว 1,350-1,355 จุด แต่น่าจะอาจเกิด Technical rebound ได้เล็กน้อย เพราะสถานการณ์การเมือง และเหตุการณ์วางระเบิดสี่แยกราชประสงค์ ยังต้องรอความชัดเจนจากทางหน่วยงานรัฐ ทำให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ระยะกลางถึงยาว ต้องลดน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยที่จะทำให้ SET INDEX ทรงตัวหรือฟื้นตัวได้บ้าง หากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกฟื้นตัว ซึ่งจะช่วยให้กลุ่มพลังงานฟื้นตัวได้บ้าง จนสามารถนำมาชดเชยกับแรงขายกลุ่มท่องเที่ยว แต่นั่นก็เพียงชั่วคราวเท่านั้น

นอกจากนี้ กลับมาให้น้ำหนักกับการตัดสินใจขายสุทธิสูงถึง 1.2 หมื่นล้านบาทของสถาบันภายในประเทศวานนี้ อาจเป็นอีกตัวแปรสำคัญที่กดดัน SET INDEX ในช่วงสั้น แต่ในทางตรงกันข้าม หากสถานการณ์คลี่คลายได้อย่างรวดเร็ว และเรียกความเชื่อมั่นได้ เชื่อว่าสถาบันภายในประเทศจะกลับมาสะสมหุ้น Domestic Play / การท่องเที่ยว เช่นกัน

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศกลับมีน้ำหนักต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างจำกัด เพราะประเด็นความเสี่ยงการท่องเที่ยว ย่อมส่งผลกระทบถึงภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้อย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งถือเป็นปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจที่สำคัญ ดังนั้นความเสี่ยงที่เฟดอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า หรือ ตลาดหุ้นจีนที่ปรับฐานลงแรงกว่า 6% วานนี้ หลังโบรกเกอร์กลับมาให้บริการ SBL อีกครั้ง ย่อมไม่เกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายเงินทุนต่างชาติกับตลาดหุ้นไทย

ขณะที่หุ้น Defensive / หุ้นปันผลสูง เชื่อว่าจะเป็นที่พักเงินในช่วงสั้นนี้ได้เป็นอย่างดี เช่น กลุ่ม ICT / กองทุน REIT / กองทุน IFF / กลุ่มโรงพยาบาล เป็นต้น

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ “นักลงทุนปรับพอร์ตเข้าหุ้น Defensive เพื่อปิดความเสี่ยงดังกล่าวในช่วงสั้น”

Accumulative Buy: INTUCH

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (19 ส.ค.) ประเด็นที่กระทบการลงทุน เมื่อวานเกิดเหตุการณ์ระเบิดขึ้นอีกครั้งบริเวณสะพานสาทร คาดเกิด Sentiment เชิงลบต่อภาคการท่องเที่ยว และกดดันการฟื้นตัวให้ภาวะเศรษฐกิจไทยปีนี้ฟื้นตัวต่ำกว่าคาดการณ์ กลยุทธ์การลงทุนให้รอประเมินสถานการณ์ วันนี้คาดน่าจะมีการรีบาวด์ ดังนั้นฝ่ายวิจัยประเมินระยะปลอดภัยดัชนีควรกลับไปยืนเหนือระดับ 1,380 จุด แต่หากหลุดลงมา ดัชนีมีโอกาสลงต่อถึงแนวรับบริเวณ 1,340 – 1,350 จุด แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นกลุ่มสายการบิน, ท่องเที่ยว, โรงแรม ส่วนระยะกลางทยอยซื้อหุ้น High Dividend เช่น ADVANC, INTUCH

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (19 ส.ค.) คาด SET จะปรับลงจากเหตุระเบิดแยกราชประสงค์ที่ไม่ทราบสาเหตุและวัตถุประสงค์ที่แท้จริง แต่อย่างไรก็ตามหากเหตุการณ์อยู่ในวงจำกัดเชื่อว่า SET จะฟื้นตัวเร็วได้ด้วยเช่นกัน

กลยุทธ์วันนี้: ไม่แนะนำขายหุ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้เพราะเชื่อว่าเหตุระเบิดครั้งนี้น่าจะอยู่ในวงจำกัดหากไม่มีเหตุการณ์ต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มท่องเที่ยวและที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจะปรับลงแรงเพราะจะได้รับผลลบโดยตรง อย่างไรก็ตามหากเกิด panic จะเป็นโอกาสเข้าซื้อหุ้นพื้นฐานดีที่ไม่ได้รับผลกระทบอย่างเช่น กลุ่มสื่อสาร กลุ่มพลังงาน

กลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มดี: พลังงานทดแทน และสื่อสาร High Div. Stock:  ADVANC, TVO, INTUCH, BTS