TACC โควิด-19 กระทบกำไร Q2/63 จำกัด-ครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่องแนะซื้อเป้า 7 บ.

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(31ก.ค.63) ว่า บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายปี 2021E ที่ 7.00 บาท อิง 2021E PER ที่ 21.6x (เทียบเท่า -0.75SD 5-yr average PER 31.7x) คาดกำไรสุทธิ 2Q20E ที่ 40 ล้านบาท (-6.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, -6.6% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) หดตัว เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ เทียบไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลกระทบจากชั่วโมงการขายของ 7-11 ที่ลดลง และการรับรู้รายได้ลดลงของ character business จากการขยายสัญญาให้ลูกค้านานขึ้น และคาดว่า gross profit marginจะอยู่ที่ระดับ 32.5% (เทียบกับ 1Q20 ที่ 33.6% และ 2Q19 ที่ 31.1%)

ขณะที่คาดรายได้ไตรมาส 2/63 ที่ 336 ล้านบาท (-16.4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +2.5% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) จากการขยายสาขาของ 7-11 เพิ่มอีก 200 สาขา เป็น 12,813 สาขา จากเดิม 1Q20 ที่ 11,983 สาขา อย่างไรก็ตามเราคาดว่า 2Q20E จะเป็นจุดต่ำสุดของปีและจะกลับมาโตใน 2H20 โดยเฉพาะในไตรมาส 4/63 จากการรับรู้รายได้เต็มไตรมาสแรกของการเพิ่มขนาดแก้วที่ใหญ่ขึ้น (แก้วใหญ่ 22 oz.) จากเดิมที่มีขนาดเดียว (แก้วเล็ก 16 oz.) ทุกสาขาทั่วประเทศในเดือน ก.ย. 20

ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นและ outperform SET +26% ในช่วง 1 เดือน จากการประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว ทำให้ชั่วโมงการขายเครื่องดื่มใน 7-11 เพิ่มขึ้น ปัจจุบันเทรดที่ 2020E PER = 20.5x (-0.8SD below 5-yr average PER 31.2x) ซึ่งต่ำกว่า peer (PER 30x) ขณะที่กำไรปี 2020E/21E จะยังคงเติบโตที่ +9%/+12% ตามการขยายตัวของสาขา 7-11