SET ยืนเหนือแนวรับ 1,360 แข็งแกร่งโบรกฯแนะเก็บ 8 หุ้นเด็ด บ่ายลุ้นไปต่อ
SET เช้าเกิด Technical Rebound หลังมีแรงซื้อกลับในหุ้นธนาคาร สื่อสาร และรับเหมา รวมถึงประเด่นการปรับครม.ชุดใหม่ที่อาจจะช่วยหนุนดัชนีได้ ส่วนตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ หลังมีความกังวลเศรษฐกิจจีนชะลอตัว คาดช่วงบ่าย ตลาดหุ้นไทยแกว่งในกรอบแนวรับ 1,360-1,350 จุด ส่วนแนวต้าน 1,380 จุด
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (19 ส.ค.) เกิด Technical Rebound หลังมีแรงซื้อกลับในหุ้นธนาคาร สื่อสาร และรับเหมา รวมถึงประเด่นการปรับครม.ชุดใหม่ที่อาจจะช่วยหนุนดัชนีได้ แต่นักลงทุนยังมีความกังวลในเรื่องเหตุการณ์ระเบิด
โดยหุ้นที่ได้รับผลกระทบอย่าง AOT-CENTEL และ ERW ที่ยังมีแรงออกมาต่อเนื่อง รวมถึงหุ้นพลังงานอย่าง PTT ยังกดดันดัชนีต่อ ส่วนตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ หลังมีความกังวลเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัว
นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ตลาดหุ้นไทยแกว่งในกรอบแนวรับ 1,360-1,350 จุด ส่วนแนวต้าน 1,380 จุด ขณะที่ แนะนำซื้อ CK-STEC-SEAFCO–ITD-UNIQ-ADVANC-INTUCH และ SVI
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ธนชาต เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังรับความกังวลจากเรื่องเดิมเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นซ้ำเมื่อวานนี้ในพื้นที่อื่นหลังเกิดเหตุที่แยกราชประสงค์ไปแล้ว
รวมถึงกังวลเศรษฐกิจจีนที่อาจชะลอตัวมากกว่าที่เคยประเมินไว้ส่งผลกดดันตลาดหุ้นจีน โดยกังวลเม็ดเงินไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ และตลาดบ้านเราก็อาจโดนไปด้วย ซึ่งตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ
ขณะที่ ช่วงนี้อยู่ในช่วงของการเฝ้าระวังเหตุการณ์รุนแรง หลังจากเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นทำลายความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนไปมากพอควร ซึ่งหากช่วงที่เหลือของเดือนนี้ไม่มีเหตุการณ์เกิดซ้ำขึ้นมาอีก ก็เชื่อว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะค่อยๆ ฟื้นคืนกลับมาได้
ทั้งนี้ กลุ่มท่องเที่ยวยังเหวี่ยงตัวอยู่แม้วานนี้จะปรับตัวลงไปมากแล้ว โดยเฉพาะสายการบิน, โรงแรม, โรงภาพยนต์ที่ยังแกว่งอยู่ คงจะต้องใช้เวลาช่วงหนึ่งในการย่ำฐานก่อน
แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดตลาดหุ้นไทยแกว่งในกรอบแนวรับ 1,360-1,350 จุด ส่วนแนวต้าน 1,380 จุด
ขณะที่ในบทวิเคราะห์ (19 ส.ค.) ระบุว่า SET เริ่มเห็นจังหวะ Technical Rebound หลังสามารถยืนที่แนวรับ 1,370 จุดได้อย่างมั่นคง เนื่องจากมีแรงซื้อกลับหุ้นธนาคาร สื่อสาร และรับเหมา ส่วนหุ้นที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุระเบิดอย่าง AOT-CENTEL และ ERW ยังมีแรงขายออกมาต่อเนื่อง แม้ประเด็นระเบิดจะส่งผลต่อ Downside Risk ระยะกลาง
แต่ประเด็นการปรับ ครม. มีโอกาสหนุนตลาดให้มี Technical Rebound ระยะสั้นเพื่อให้เป็นจังหวะลดพอร์ตได้ ทั้งนี้ถ้าพิจารณาในเชิงเทคนิคจะยังผันผวนต่อไป จนกว่าการฟื้นตัวก็ต่อเมื่อ SET สามารถยืนได้เหนือ 1,400 จุด ซึ่งเป็นแนวเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว 3 ปีได้
ขณะที่ แนะนำซื้อ กลุ่มรับเหมาฯ หลังจากราคาปรับตัวลง เช่น CK-STEC-SEAFCO รวมไปถึง ITD และ UNIQ จากความคาดหวังเร่งเปิดประมูลโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และแนะนำ“ซื้อ” หุ้น Yield Play อย่างกลุ่มสื่อสารที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงและได้ประโยชน์จากการประมูล 4G ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงแรงเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อสะสม ADVANC (แนวรับ 228 บาท) และ INTUCH (แนวรับ 79.00 บาท)
นอกจากนี้ ยังแนะ“ซื้อ” SVI ด้วยราคาพื้นฐาน 5.60 บาท จาก 1) กำไรในไตรมาส 2/58 ดีกว่าคาด ซึ่งเพิ่มขึ้น 209% จากไตรมาสก่อน 2) ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าจะช่วยหนุนให้กำไรดีต่อเนื่อง 3) มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับสูง 3.4% ในปีนี้ แต่จะเพิ่มเป็น 5.7% ในปี 59 และ 6.5% ในปี 60
และ 4) PE ยังไม่สูงมากเมื่อเทียบกับแนวโน้มกำไร (11.5 เท่า และ 9.9 เท่า ในปี 58-59 เป็นต้นไป) สอดคล้องกับภาพทางเทคนิคที่มีแรงซื้อแข็งแกร่งกว่าตลาด พร้อมปริมาณการซื้อขายสนับสนุน กำลังทดสอบแนวเส้น Downtrend Line บริเวณ 4.86 บาท หากผ่านได้จะมีเป้าหมายถัดไปที่ 5.00 บาท
บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ (19 ส.ค.) ว่า แนวโน้มภาคบ่าย คาดว่าดัชนียังคงสามารถยืนเหนือเส้นแนวรับสำคัญที่ 1,376 ได้ และด้วยระดับ RSI ที่มีค่าต่ำมาก มีโอกาสที่ดัชนีจะรีบาวน์กลับขึ้นทดสอบแนวต้านแรกที่ 1,388 แต่หากหลุด 1,376 แนะนำรอซื้อกลับแถวบริเวณ
สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,585.18 ล้านบาท ปิดที่ 276.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,200.06 ล้านบาท ปิดที่ 264.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 762.69 ล้านบาท ปิดที่ 172.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 632.22 ล้านบาท ปิดที่ 9.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
IFEC มูลค่าการซื้อขาย 537.96 ล้านบาท ปิดที่ 10.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์