จอมฉวยโอกาส !โมนิก้าและทีมงาน
*วานนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ต้องเสียเวลาไปกับการอ่านทฤษฎีการลงทุนในตลาดหุ้น wall street เพื่อเป็นแนวทางในการลงทุน เพราะสิ่งที่เห็น ณ เวลานี้มีอะไรหลายอย่างที่ตรงตามคำบอกเล่าในตำรา โดยเฉพาะคำฮิตประจำหมู่ผู้จัดการกองทุนก็คือ เมื่อใดที่กองทุนบอกให้ซื้อ เมื่อนั้นเป็นจังหวะขาย และเมื่อใดที่กองทุนบอกให้ขาย เมื่อนั้นเป็นจังหวะซื้อนะจะบอกให้
*วานนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ต้องเสียเวลาไปกับการอ่านทฤษฎีการลงทุนในตลาดหุ้น wall street เพื่อเป็นแนวทางในการลงทุน เพราะสิ่งที่เห็น ณ เวลานี้มีอะไรหลายอย่างที่ตรงตามคำบอกเล่าในตำรา โดยเฉพาะคำฮิตประจำหมู่ผู้จัดการกองทุนก็คือ เมื่อใดที่กองทุนบอกให้ซื้อ เมื่อนั้นเป็นจังหวะขาย และเมื่อใดที่กองทุนบอกให้ขาย เมื่อนั้นเป็นจังหวะซื้อนะจะบอกให้
*เมื่อนำประเด็นดังกล่าวมาเชื่อมโยงรูปแบบการเล่นสั้นๆ ของบรรดากองทุน “โมนิก้า” เลยถึงบางอ้อในทันที และไม่แปลกใจที่กองทุนหวนกลับเข้ามาซื้อ 2.66 พันล้านบาท หลังจากวันก่อนสาดหุ้นออกมา 1.20 หมื่นล้านบาท มันคือกลยุทธ์ขายเพื่อไปรับที่ต่ำกว่า หรือภาษาอังกฤษเรียกรูปแบบนี้ว่า short against port ทิศทางของตลาดหุ้นไทยเลยอยู่ในกำมือของกองทุนอย่างเบ็ดเสร็จไงล่ะค่ะ
*งานนี้ไม่ต้องไปวิเคราะห์ประเด็นอื่นให้เสียเวลา เพราะเท่าที่เห็นมาตั้งแต่ต้นปี 58 กองทุนใช้นโยบายการลงทุนแบบนี้มาตลอด และการที่ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,379.12 จุด บวกไป 6.51 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.62 หมื่นล้านบาท ก็สอดคล้องกับเหตุผลข้างต้นที่เกริ่นนำไว้ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับเข้าใจอารมณ์ในการลงทุนแต่ละช่วงเวลา เพื่อกำหนดโพสิชั่นของตัวเองให้ชัดเจนเจ้าค่ะ
*เหมือนกับการถีบตัวขึ้นของ MINT ขึ้นมาปิดที่ระดับ 24.50 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือ 3.40% ด้วยมูลค่า 950 ล้านบาท มันน่าจะมาจากฝีมือของกองทุน และการซื้อกลับในเที่ยวนี้ ก็เป็นการทำกำไรในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน ผู้จัดการกองทุนเลยรับความดีความชอบไปเต็มๆ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นตามเกมให้ทัน จังหวะไหนมีโอกาสสาดหุ้นเอากำไรมาก่อน ก็รีบทำไปเลยนะจ๊ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ KBANK SCB KTB BBL ล้วนอยู่ภายใต้อุ้งมือนักลงทุนสถาบันฯ ครั้งใดที่พร้อมใจกันซื้อ หุ้นแบงก์ก็วิ่งระเบิดเถิดเทิง แต่ครั้งใดที่เสียงเริ่มแตก หุ้นก็แกว่งตัวลงเป็นหลัก ซึ่งเป็นภาพที่พบเห็นได้เป็นประจำ และไซเคิลดังกล่าวก็เกิดขึ้นให้เห็นมาแล้วหลายรอบ วันนี้ถึงพอเดาทางได้ว่า เมื่อใดที่หุ้นกลุ่มนี้ทะยานขึ้น 5-7% หลังจากนั้นจะโดนเทขายในทันที..เชื่อน้องโมเถอะ เพราะของมันเห็นกันจนชินตาเจ้าค่ะ
*อีกหนึ่งรายที่อยู่ในข่ายกองทุนเล่น ขาใหญ่ชอบ แมงเม่าตาม คงไม่มีใครเกินกว่า ITD ซึ่งงานนี้ไม่รู้ว่า ใครได้.. ใครเสีย เพราะแต่ละฝ่ายจ้องจะสาดหุ้นใส่กันตลอดเวลา หุ้นถึงไปไหนได้ไม่ไกลสักที! ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 7.20 บาท บวกไป 0.05 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 630 ล้านบาท มันเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า รอคนมาเป็นเจ้าภาพเปิดงานเลี้ยงแบบนี้..มันไม่เวิร์กแล้วล่ะค่ะ
*ผิดกับในรายของ QH เริ่มมีการเคาะๆ ดันๆ ให้เห็นกันบ้างแล้ว แต่ต้องดูกันต่อไปว่า กองทุนจอมแสบจะเล่นด้วยอะป่าว ? และรูปแบบการเล่นจะยาวแค่ไหน ? ล้วนเป็นข้อมูลที่นักเล่นควรจะรู้ไว้บ้าง ถ้าไม่รู้จริงๆ ก็ไม่เป็นไร เพราะแค่ทำตัวเป็นนักฉวยโอกาสเสียบ้าง โอกาสของการลงทุนก็เปิดรับในทันที ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.32 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 5.50% ด้วยมูลค่า 140 ล้านบาท มีลุ้นไปถึง 2.50 บาทค่อนข้าง หลังทำ double top ให้เห็นแล้วนะซี
*ไหนๆ เม้าท์ถึงเรื่องนี้นักฉวยโอกาสขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอเม้าท์มอยด์ถึงสถานการณ์ของหุ้น EIC เพื่อให้แฟนคลับขาลุยได้อัพเดตสถานการณ์ของข่าวลือในท้องตลาดอีกสักเล็กน้อย เพราะกระแสเรื่องการสวมธุรกิจมันแรงเสียเหลือเกิน และดูเหมือนจะมีการจุดชนวนประเด็นนี้เป็นระยะ วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.04 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 17% ด้วยมูลค่า 370 ล้านบาท มันทำให้นักเล่นต้องไหลตามน้ำในทันทีไงล่ะค่ะ
*เช่นเดียวกับกรณีของ AJD ซึ่งได้ขุมกำลังนักลงทุนรายใหญ่เข้ามาเป็นแบ็กอัพ! บวกกับมีการตรวจแถวแนวรบทุกขั้วเป็นประจำ ทรงของหุ้นถึงยังดูดีเหมือนเดิมทุกประการ ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.50 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่า 800 ล้านบาท “โมนิก้า” ถึงกล้าพูดเต็มปากเต็มคำว่า VI..VI เริ่มทำงานอีกครั้ง (พวกไวไว) ไม่รีบฉวยโอกาสแบบนี้ไว้ อย่ามาเสียใจภายหลังนะคะ
*เหมือนกับการปรับตัวขึ้นวันละนิดวันละหน่อยอของหุ้น SUPER ทั้งหลายทั้งปวงก็มาจากเรื่องโรงไฟฟ้าที่ประกาศออกมาปาวๆ บวกกับหุ้นกำลังเทคตัวขึ้นรอบใหม่ จึงมีคนกระโดดเข้ามาร่วมขบวนรถด่วนเที่ยวนี้เป็นจำนวนมาก จนวานนี้หุ้นขึ้นมาปิดที่ 1.83 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 4.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 520 ล้านบาท มันสะท้อนถึงกระแสนิยมได้เป็นอย่างดี..ส่วนวันนี้จะเป็นอย่างไร ต้องตามไปดูกันเอาเอง “โมนิก้า” พูดอะไรได้ไม่มากหรอก เดี๋ยวเขาจะหาว่า ชี้นำมากเกินไป..อิอิอิ
*ย้ำกันอีกครั้งว่า หากนักลงทุนขาดข้อมูลที่บรรยายถึงเหตุการณ์ต่างๆ อย่างละเอียด ก็ควรจะมาหาข้อมูลในงานสัมมนาของ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ในวันที่ 22 ส.ค. 58 ที่จัดขึ้น ณ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งในวันนั้นจะมีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการลงทุนในช่วงโค้งสุดท้ายปี 58 และยังเปิดโอกาสให้ซักถามนักวิเคราะห์ระดับเทพอีกด้วย จึงอยากเชิญชวนทุกคนที่อยากพลิกวิกฤติเป็นโอกาส ควรจะมาร่วมงานสัมมนาในครั้งนี้..เดี๋ยวจะหาว่า มีอะไรดีแล้วไม่บอกนะค่ะ