เล่นหุ้นกลาง–เล็ก

วานนี้ (10 ส.ค.) มูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้นเบาบางมาก


ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

วานนี้ (10 ส.ค.) มูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้นเบาบางมาก

มีทั้งหมด 37,417 ล้านบาท เท่านั้นเอง หรือต่ำสุดในรอบ 10 เดือน ( 8 ต.ค. 62 วอลุ่ม 36,554 ล้านบาท )

วอลุ่มเทรดที่ลดลง ส่วนหนึ่งมาจากนักลงทุนหันไปเล่นหุ้นขนาดกลางและเล็กกันมากขึ้น

ส่วนหุ้นขนาดใหญ่ เช่น ในกลุ่มพลังงาน ธนาคารพาณิชย์ ดูซบเซาลงไป จากผลประกอบการที่ออกมาย่ำแย่ โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารที่คาดว่าหุ้นบางตัวจะเผชิญกับกำไรที่ลดลงอีกในช่วงที่เหลือของปีนี้

หุ้นขนาดกลาง เล็กที่เข้ามาซื้อขายกันมากขึ้นวานนี้

เช่น NER STA IIG UTP JMT THANI RBF และ ASIAN

หุ้นเหล่านี้ ต่างถูกคาดหมายว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 จะออกมาดี

หรือหากไตรมาส 2 กำไรไม่ค่อยสวย

ทว่าแนวโน้มครึ่งปีหลังจะออกมางดงาม

นักลงทุนก็จะพาเหรดเข้าไปเก็งกำไรกันสนุกสนาน

ช่วงนี้ บทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ต่าง ๆ  จึงพยายามแนะนำหุ้นแบบเป็น “ธีม” (Theme)

เช่น หุ้นผลประกอบการไตรมาส 2 เด่น ของ บล.โนมูระฯ พร้อมยก TASCO, CPF, TU, TFG, AP, DOHOME, TOA, JMT, JMART, WICE, SC, ICHI, OSP, XO, PTG และ HTC

หรือธีมหุ้นแนวโน้มเติบโตครึ่งปีหลัง

และยังมีธีมหุ้นอีกหลาย ๆ ธีม ตามแต่จะเลือกเล่น

แต่ส่วนใหญ่แล้วจะพบว่า หุ้นที่นักวิเคราะห์ยกขึ้นมา จะเป็นหุ้นขนาดกลางและเล็ก

ส่วนหุ้นขนาดใหญ่ จะเลี่ยง ๆ ที่จะพูดถึงในช่วงนี้

เว้นแต่บางตัวที่อาจจะมีการระบุว่า หากราคาลงมาเยอะเกิน และใครเป็นนักลงทุนระยะยาว ยอมรับความผันผวนของราคาหุ้นได้ ก็ให้ “ทยอยซื้อ” ได้

บล.โนมูระฯ ยังให้ติดตาม MSCI จะประกาศรายชื่อหุ้น 12 ส.ค. นี้ด้วย

แต่คาดว่าไม่มีหุ้นไทยเข้า-ออกใหม่

พร้อมกับให้จับตาไทยอาจถูก “ลดน้ำหนัก” แนะระวังหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว และ Consumer Finance

ของ บล.ยูโอบีฯ ให้ติดตามการทบทวนหุ้น หรือ Rebalancing ดัชนี MSCI 12 ส.ค. เช่นกัน

เบื้องต้น ประเมินว่าจะไม่มีหุ้นใดถูกปรับออกหรือนำเข้าสู่การคำนวณของดัชนี

และรวมถึงการปรับเพิ่มลดน้ำหนักรายตัว

แต่จากกระแสความนิยมของการลงทุนหุ้น “กลุ่มเทคโนโลยี” ทำให้มีโอกาสที่ “จีน” และ “ไต้หวัน” จะได้รับการปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุน

ส่วนประเทศอื่น ๆ “มีความเสี่ยง” ที่อาจถูกปรับลดน้ำหนักการลงทุนลง และจะเป็นปัจจัยกดดันตลาดในระยะสั้นได้

ธีม การลงทุนของ บล.ยูโอบีฯ คือ  “เก็งกำไรรายตัว”

โดยโฟกัสไปยังกลุ่มผลประกอบการดี เช่น  กลุ่มอาหาร CPF, TU

ประกันภัย TIP และ THRE

ยาง ถุงมือยาง STA และ STGT

หุ้นปลอดภัย-มั่งคง ADVANC, INTUCH, DIF, JASIF และ BCH

สุดท้าย คือ หุ้นฟื้นจากจุดต่ำสุด PTTGC, PTT

และอื่น ๆ  AP, AI, CKP

ส่วนหุ้นที่ต้องระวัง คือ กลุ่มการเงิน SAWAD, MTC, KTC และ AEONTS

กลุ่มการเงิน หรือไฟแนนซ์ วานนี้ร่วงทุกตัว

MTC พยายามรักษาที่ระดับ 50 บาท (+) แต่ยืนไม่ไหวจริง ๆ

เช่นเดียวกับ KTC ที่ร่วงหลุดต่ำกว่า 30 บาท ลงมาจนได้ สถานการณ์แบบนี้ ทั้งเซนติเมนต์ และสัญญาณเทคนิคไม่ค่อยดีล่ะ

ส่วน  AEONTS นี่ก็หลุดลงมาต่ำกว่า 100 บาทแล้ว

ทั้งหมดต่างได้รับผลกระทบจากการ “เข้าแทรกแซง” ของทางการ หรือ Policy risks

หลังการแจ้งงบไตรมาส 2

น่าจะมีแรงเก็งกำไรจากหุ้นธีมที่แจ้งจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล

ขณะที่หุ้นบิ๊กแคป น่าจะยังซบเซาไปอีกสักพัก

Back to top button