SET สัปดาห์นี้ ‘Sideways/Down’ พร้อมจับตา 4 ปัจจัยเด่นชัดเจน-แนะเก็บ TU,CRC,TASCO

SET สัปดาห์นี้ ‘Sideways/Down’ พร้อมจับตา 4 ปัจจัยเด่นชัดเจน-แนะเก็บ TU,CRC,TASCO


Weekly outlook: “Sideways/Down” ต้าน 1346/1350จุด รับ 1303/1290จุด

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สัปดาห์นี้ (17-21ส.ค.63) สัปดาห์นี้คาดตลาดหุ้นไทย ‘Sideways/Down’ โดยประเด็นสำคัญที่จะเป็นตัวบ่งชี้ทิศทางตลาดคือ การทบทวนข้อตกลงการค้าเฟส 1 ระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 ส.ค.นี้ ซึ่งมีโอกาสที่จะเพิ่มความตึงเครียดระหว่างสองประเทศมากขึ้น เนื่องจากจีนไม่สามารถบรรลุการสั่งซื้อสินค้าต่างๆได้ตามจำนวนที่ได้ตกลงกันไว้

นอกจากนี้ เข้าใกล้การเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯที่จะมีขึ้น 3 พ.ย.ท่ามกลางคะแนนนิยมของปธน. Trump ที่ยังคงด้อยกว่า Joe Biden รวมถึงการประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครตจะจัดขึ้นวันที่ 17 ส.ค. จึงมีโอกาสที่ปธน.Trump จะหันมาใช้ไม้แข็งกับจีนเพื่อเรียกจุดสนใจ และเรียกคะแนนเสียงกลับคืน ดังนั้น Nomura ให้มุมมอง 3 กรณี

  • ให้น้ำหนัก 35% ที่ปธน. Trump จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมจากจีน หลัง 15 ส.ค. กรณีนี้จะเป็นลบต่อตลาด SET จะเหวี่ยงลงหลุด 1300จุด และกดดันหุ้น อิง Global Play พลังงาน น้ำมัน ปิโตรเคมี และส่งออก ให้เน้นหุ้นพื้นฐานในประเทศ The Laggard BBL, CRC, CPALL, OSP ปันผลสูง ADVANC, SPALI และ Growth Stocks WICE, ICHI, HTC, JMT, JMART
  • ให้น้ำหนัก 60% ที่จะยังคงข้อตกลงการค้าเฟส 1 (ไม่เก็บภาษีเพิ่ม) ไปจนถึงการเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ กรณีนี้จะลดแรงกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยง SET Sideway 1300-1360จุด และเป็นบวกต่อหุ้นส่งออก & Global Play เน้น KCE, SMT, HANA, TU,CPF, PTT, TOP เด่น
  • ให้น้ำหนักเพียง 5% ที่การทบทวนข้อตกลงเฟส 1 เป็นการหารือแบบประนีประนอมมากที่สุด กล่าวคือ ทั้งสองฝ่ายยินยอมที่จะเจรจาเฟสถัดไปกันแพิ่มเติม จะออกมาเป็นบวกต่อตลาด SET อาจฟื้นสู่กรอบ 1350-1390จุด

ส่วนปัจจัยอื่นๆที่น่าติดตาม 1)การรายงาน GDP 2Q20 ของไทย 17 ส.ค.นี้ Nomura คาด -9.9% vs. Consensus คาด -13.7% 2) การประชุมของคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต (JMMC) ของกลุ่มประเทศโอเปกพลัส 17-18 ส.ค.นี้แนะติดตามว่าแต่ละประเทศทำตามข้อตกลงหรือไม่

3)รายงาน FED Minutes 19 ส.ค. 4)การประกาศ FTSE Rebalance รอบใหม่ 21 ส.ค.นี้ และ 4) การปรับประมาณการลงของกำไรตลาดหุ้นไทย หลังปรับปี 2020-2022 ลงมาสู่ 59, 79, 92.47 บาทต่อหุ้นตามลำดับ ทำให้ SET เทรดที่ PER 2020F-22F 22.5X, 16.8X, 14.35X จะเป็นจุดสิ้นสุดการหั่นลงหรือไม่

กลยุทธ์การลงทุน: ภาวะสินทรัพย์เสี่ยงโลก จะขึ้นอยู่กับการเจรจาระหว่าง US-CH 15 ส.ค.นี้ ดังนั้นพอร์ตลงทุนเชิง Tactical คงแนะนำถือหุ้นเพียง 25% ส่วนการเก็งกำไรเน้นหุ้น AUG 2020 Portfolio : BDMS, ICHI, TASCO, TU, SPALI, SMT, WICE

หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ TU, CRC, TASCO ส่วนสัปดาห์ก่อน HTC, SMT, TASCO ให้ผลตอบแทน -8.58% แย่กว่าดัชนีฯที่ให้ผลตอบแทน 0.20%

1) TASCO(TP29.2): คาดผลประกอบการยังเติบโตต่อเนื่องใน 3Q20

2) TU(TP20): ผลประกอบการอยู่ในจุดเติบโตรอบใหม่2H20

3) CRC(Trad.): คาดผลประกอบการพ้นจุดต่ำสุด 2Q20 และมีโอกาสพลิกมีกำไร

Back to top button