ซื้อบนความกลัว!

*หากจับอาการของนักลงทุนกลุ่มที่เข้ามา “ซื้อ ๆ ขาย ๆ” เพื่อเพิ่มโอกาสในการเล่นรอบ “โมนิก้า” พูดได้อย่างเต็มปากเลยว่า อารมณ์ของนักเล่นค่อนไปในทาง “กลัว” มากกว่ามีความ “มั่นใจ” เพราะเมื่อดูจากข่าวสารที่ปรากฏให้เห็นในแต่ละวัน มันไม่มีข่าวไหนที่ทำให้นักเล่นรู้สึกฮึกเหิมแบบถาวรเลยสักเรื่อง เดี๊ยนถึงพยายามให้แฟนคลับเข้าใจรูปแบบการเล่นเที่ยวนี้ต้องเน้นเรื่อง “ไวไว” เป็นหลักนะจ๊ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หากจับอาการของนักลงทุนกลุ่มที่เข้ามา “ซื้อ ๆ ขาย ๆ” เพื่อเพิ่มโอกาสในการเล่นรอบ “โมนิก้า” พูดได้อย่างเต็มปากเลยว่า อารมณ์ของนักเล่นค่อนไปในทาง “กลัว” มากกว่ามีความ “มั่นใจ” เพราะเมื่อดูจากข่าวสารที่ปรากฏให้เห็นในแต่ละวัน มันไม่มีข่าวไหนที่ทำให้นักเล่นรู้สึกฮึกเหิมแบบถาวรเลยสักเรื่อง เดี๊ยนถึงพยายามให้แฟนคลับเข้าใจรูปแบบการเล่นเที่ยวนี้ต้องเน้นเรื่อง “ไวไว” เป็นหลักนะจ๊ะ

*เนื่องจากตลาดหุ้นไทยกำลังเผชิญกับ sell on fact ในทุกมิติ และความหวังที่จะได้เห็นบริษัทต่าง ๆ ปั้นกำไรสวย ๆ เพื่อเสริมสร้างกำลังใจให้กับนักเล่นยังต้องรอการพิสูจน์ “โมนิก้า” ถึงต้องถามใจทุกคนอีกครั้งว่า การย่อตัวของดัชนีลงไปถึง 1,315.89 จุด พร้อมกับแกว่งตัวออกด้านข้าง ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 1,320.91 จุด ลบไป 6.14 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.78 หมื่นล้านบาท มันเป็นจังหวะที่ต้องซื้อสวนหรือเปล่า ?

*สาเหตุที่ต้องถามเช่นนี้เป็นเพราะ หุ้นบางตัวที่ทำผลงานได้ดีกลับอ่อนระทวย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก ๆ ในภาวะที่เหตุการณ์หลายอย่างกำลังคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น หรือแม้กระทั่งเรื่องการเปิดรับพนักงานรอบใหม่ กลายเป็นจุดที่ทำให้หลายคนหัวใจพองโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ “โมนิก้า” ถึงไม่เคยกังวลกับม็อบต่าง ๆ ที่พยายามใช้โซเชียลในการบิลต์อารมณ์ผู้คนตลอดเวลานะจะบอกให้

*วันนี้ถึงต้องเอาสถิติเก่ามาถกกันอีกรอบว่า ยุทธการซื้อหุ้นท่ามกลางความหวาดกลัวให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับการรอคอยไหม ? หรือแม้กระทั่งภาวะเศรษฐกิจที่ทุกคนมองกันว่า กำลังดำดิ่งสู่ก้นเหวอย่างช้า ๆ มันคือโอกาสของคนที่มีเงินเย็นตุนไว้ในกระเป๋าใช่ไหม ? “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับใช้วิจารณญาณในการประเมินข้อมูลดังกล่าวอีกสักรอบ เพื่อสำรวจความพร้อมของตัวเองมีขนาดไหนพะยะค่ะ

*เหมือนกับในรายของน้องมิ้น MINT บวกสวนกระแสตลาดด้วยความเชื่อผลงานไตรมาส 3 จะกระเตื้องขึ้น หุ้นเลยยืนปิดที่ระดับ 20.70 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.54 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นจุดที่กองทุนหลายแห่งมองเห็นเหมือนกัน เพียงแต่จังหวะนี้ไม่ใช่เวลาของการ “ไล่ซื้อ” แบบสุดลิ่มทิ่มประตู จึงหันไปใช้วิธีรอให้หุ้นย่อตัวแล้ว “ช้อนหุ้น” ก็เท่านั้นเองค่ะ

*ส่วนกรณีของเจ้าพ่อสื่อสารสีแดงอย่าง TRUE อาศัยความได้เปรียบของผลงานเป็นแรงผลักดันราคาหุ้นในกระดาน วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 3.52 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 870 ล้านบาทแบบชิล ๆ ผนวกกับมีการประกาศกร้าวถึงผลงานในครึ่งปีหลัง น่าจะออกมาปังเหมือนกับไตรมาสนี้ “โมนิก้า” ถึงเก็บหุ้นตัวนี้อยู่ในลิสต์หุ้นน่าเล่นแห่งปีไงล่ะค่ะ

*สำหรับในรายของ CENTEL อาจไม่เฉิดฉายเหมือนกับสองรายข้างต้น แต่ในมุมของการขึ้นมายืนเหนือแนวต้านได้หมดทุกเส้น พร้อมกับขยับตัวขึ้นมาปิดที่ 25 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 2.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 158 ล้านบาท “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นจุดที่เหมาะต่อการไหลตามน้ำแบบไม่มีข้อสงสัย เพราะโมเมนตัมของหุ้นเปลี่ยนไปจากเดิมมาก จึงกลายเป็นหุ้นที่เหมาะต่อการเล่นสั้น ๆ ในภาวะอึมครึมแบบนี้แหละค่ะ

*ไหน ๆ เม้าท์ถึงหุ้นน่าเล่นขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอชำเลืองตามองหุ้นลูกถ้วยไฟฟ้าอย่าง AI เพื่อไว้เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ชอบหุ้นเติบโต พ่วงด้วยสตอรี่ปันผลงามไปเลยทีเดียว เดี๊ยนถึงไม่แปลกใจที่วานนี้เห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 1.59 บาท บวกไป 0.11 บาท หรือขึ้นไป 7.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 178 ล้านบาท เพราะมองในมุมของการเล่นยาว ๆ หุ้นตัวนี้ยังมีโอกาสขยับขึ้นอีกนะจะบอกให้

*ส่วนเรือพ่วงที่ติดสอยห้อยตามเป็นเวลานานอย่าง AIE น่าจะพิสูจน์การทำกำไรพื้นฐานทุกไตรมาสซึ่งน่าจะอยู่ในระดับ 50 ล้านบาทเป็นที่ตั้ง เพราะเมื่อดูโครงสร้างธุรกิจที่ลงตัวกว่าเดิม และการปั๊มรายได้ธุรกิจใหม่ที่แตกแขนงมาตั้งแต่ปีก่อน ซึ่งจะเริ่มเห็นผลในปลายปี 63 เดี๊ยนเลยมองว่า การยืนปิดที่ 0.59 บาท ลบไป 0.01 บาท หรือลงไป 1.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8 ล้านบาท ช่างเหมาะสำหรับพวก “เบี้ยน้อย หอยน้อย” เสียจริง ๆ..อิอิอิ

Back to top button