แก้มือใหม่ ?
*หากดูอาการแกว่งตัวของตลาดหุ้นแบบเจาะลึกลงไปถึงไซเคิลในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาจะเห็นว่า ตลาดหุ้นไทยอยู่ในลักษณะจุดเด้งกลับเริ่มต่ำลงทุกครั้ง และเป็นภาพสะท้อนที่ทำให้เห็นแรงซื้อเริ่มขาดตอน โมเมนตัมของตลาดหุ้นไทยถึงกระท่อนกระแท่นบ่อยครั้ง และทำให้แนวต้านถูกซอยถี่ขึ้นแบบละเอียดยิบ ส่งผลให้การเคาะขวาเพื่อแก้มือทำได้ยากขึ้นนะจะบอกให้
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*หากดูอาการแกว่งตัวของตลาดหุ้นแบบเจาะลึกลงไปถึงไซเคิลในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาจะเห็นว่า ตลาดหุ้นไทยอยู่ในลักษณะจุดเด้งกลับเริ่มต่ำลงทุกครั้ง และเป็นภาพสะท้อนที่ทำให้เห็นแรงซื้อเริ่มขาดตอน โมเมนตัมของตลาดหุ้นไทยถึงกระท่อนกระแท่นบ่อยครั้ง และทำให้แนวต้านถูกซอยถี่ขึ้นแบบละเอียดยิบ ส่งผลให้การเคาะขวาเพื่อแก้มือทำได้ยากขึ้นนะจะบอกให้
*ฉะนั้นอย่าได้แปลกใจเมื่อเห็นดัชนีทำดีสุดได้แค่การยืนปิดที่ 1,330.11 จุด บวกไป 9.20 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.08 หมื่นล้านบาท เพราะไม่มีมุมให้เล่นในระยะสั้น หรือถ้าเล่นจริง ๆ ต้องอาศัยหน้าตักเยอะ และจำเป็นต้องเพิ่มความไว ถึงจะได้ผลลัพธ์ออกมาสำเร็จดังที่ตั้งใจไว้ “โมนิก้า” จึงต้องออกมาจั่วหัวเม้าท์แตกด้วยอารมณ์แทงกั๊ก เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้พะยะค่ะ
*ถามว่า ประเด็นดังกล่าวน่าเหนื่อยใจตรงไหน ? “โมนิก้า” บอกได้ทันทีว่า คนเล่นสั้นอาจรู้สึกอึดอัดใจมากกว่าคนอื่นนิดหน่อย แต่คนที่เน้นเล่นระยะกลางถึงระยะยาว น่าจะมีความรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เพราะของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า หุ้นหลายตัวยังทำผลงานได้ดี และในอนาคตน่าจะเบ่งกำไรได้เพิ่มขึ้นอีก จึงต้องถามบรรดานักเล่นอีกครั้งว่า วันนี้ใจสู้หรือเปล่า ?..อิอิอิ
*เนื่องจากมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางลงทุกขณะ ทำให้สภาพการเล่นไม่คล่องตัวเหมือนเมื่อก่อน จึงต้องเลือกเฟ้นหุ้นพิถีพิถันเป็นพิเศษ เพราะเดี๊ยนมองไม่ออกเหมือนกันว่า ในระยะสั้น ๆ หุ้นตัวไหนจะเป็นแกนหลักดันตลาดหุ้นขึ้นไปอีกรอบ หลังข้อมูลที่ปรากฏให้เห็นในช่วงนี้มีแต่เหตุการณ์ sell on fact กับยุทธการถอยฉากเพื่อดูสถานการณ์ให้ชัวร์ก่อนลุยซื้อรอบใหม่นะซี
*เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับถุงมือย้วย STGT ถูกถล่มขายหลายวันแบบไม่พูดพร่ำทำเพลง จนราคาหุ้นร่วงจากระดับ 90 บาท ลงมาทำราคาต่ำสุดแถว 60 บาท ก่อนจะเด้งกลับขึ้นมายืนที่บริเวณ 75 บาท บวกไป 9.50 บาท หรือขึ้นไป 14.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.76 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นจุดหักเหที่สำคัญของหุ้นตัวนี้เลยทีเดียว เพราะสตอรี่ปัง ๆ ถูกเอามาเล่นหมดแล้ว แถมบรรดาขาใหญ่ก็สาดหุ้นใส่กันกันหยดแบบนี้..พีกสุด ๆ เลยพะยะค่ะ
*เช่นเดียวกับสถานการณ์ของหุ้น CRC เด้งขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในรอบ 2 เดือนครึ่ง พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่แน่นเอี๊ยด “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นเรื่องการขอแก้มือใหม่อย่างเป็นทางการ หลังธุรกิจร้านรวงต่าง ๆ เริ่มมีความคึกคักมากขึ้นกว่าก่อน จึงเป็นจังหวะของการโหนกระแสแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก ผนวกกับเป็นวันแรกที่หุ้นขึ้นมาปิดที่ 30.50 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 4.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.55 พันล้านบาท เคาะรัวไปเลยลูกพี่ !
*ส่วนรายที่มีการไล่หุ้นเป็นเวลานาน และมีการโยนซ้ายให้เห็นประปรายอย่าง COM7 กลายเป็นหุ้นตัวเต็งที่มีแนวโน้มไปต่อเรื่อย ๆ ยิ่งวางเป้าเพิ่มสาขาเพื่อปั๊มรายได้ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้กำไรเพิ่มเป็นเงาตามตัว “โมนิก้า” ถึงเห็นด้วยกับการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 39.25 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 726 ล้านบาท เพราะสตอรี่ที่ถูกนำเสนอทำให้เชื่อว่า ทุกอย่างกำลังไปได้สวยนะซี
*ตรงกันข้ามกับในรายของ IIG อย่างสิ้นเชิง เพราะรายนี้กำลังอยู่ในภาวะถดถอยแบบสุดซอย หลังตัวเลขกำไรงวดล่าสุดวิ่งไม่ทันราคาหุ้นในกระดาน จึงโดนนักเล่นเททุกราคาแบบไม่ต้องวิเคราะห์ให้เสียเวลา วานนี้เลยเป็นอีกครั้งที่หุ้นทิ้งตัวลงแรง ก่อนจะมีมือดีเข้ามาดันหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 14.50 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 2.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 317 ล้านบาท ผนวกกับน้องโมนำสมมุติฐานปีนี้กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 0.60 บาท ต่อจากนั้นคิดบน P/E 15 เท่า ก็ได้ราคาเป้าหมายแค่ 9 บาทเองนะจ๊ะ
*ส่วนรายที่พยายามทานกระแสอย่างหุ้นทำโฆษณา YGG ถือเป็นช็อตที่นักเล่นต้องตรึกตรองให้ดีเป็นพิเศษ เพราะเมื่อประเมินแบบอนุรักษนิยมเพื่อหาทางออกที่เซฟสุด ๆ โดยให้กำไรต่อหุ้นในปีนี้อยู่ที่ 0.20 บาท ต่อจากนั้นนำมาเทียบ P/E 15 เท่า เดี๊ยนได้ราคาแค่ 3 บาทเอง ! หรือขยับค่าพี/อีขึ้นอีกเท่าตัว (30 เท่า) ก็ได้ราคาแค่ระดับ 6 บาท “โมนิก้า” ถึงอยากให้ประเมินการยืนปิดที่ 11.30 บาท บวกไป 1.40 บาท หรือขึ้นไป 14.14% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 88 ล้านบาท เหมาะสมไหม ? เดี๊ยนอาจเป็นพวกหัวโบราณคร่ำครึ เลยคิดออกแต่วิธีคำนวณแบบนี้..อิอิอิ