ผลตรวจ “โควิด” หญิง จ.เลย พบเป็นซากเชื้อ ไม่ติดต่อ แต่ยังต้องติดตามอาการที่ รพ.
โฆษก ศบค. และคณะแพทย์ รพ.รามาฯ เผยผลตรวจ "โควิด" หญิง จ.เลย พบเป็นซากเชื้อ ไม่ติดต่อ แต่ยังต้องติดตามอาการที่ รพ. พร้อมเร่งสอบสวนผู้สัมผัสใกล้ชิด ทั้ง 24 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 ส.ค.63) เมื่อเวลา 18.00 น.โดยประมาณ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. พร้อมด้วย นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผอ.รพ.รามาธิบดี และผู้แทนคณะแพทย์รามาธิบดี แถลงความคืบหน้ากรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลังพ้นกักตัวครบ 14 วัน ที่ห้องประชุมชั้น 1 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)
โดยนพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิป กล่าวถึงผลตรวจล่าสุดเคสหญิงไทย อายุ 35 ปี ที่เดินทางกลับมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระบุว่า พบเพียงส่วนเชื้อพันธุกรรมไวรัสโควิด-19 ในปริมาณที่น้อย ซึ่งทีมแพทย์มั่นใจว่าเป็นแค่ส่วนของไวรัสที่ไม่ทำให้เกิดการติดต่อแพร่เชื้อได้ แต่เพื่อความสบายใจของสังคม จึงขอให้อยู่ติดตามอาการที่โรงพยาบาลเพิ่มเติม
โดยหญิงไทยรายนี้ ได้เดินทางมาตรวจสุขภาพก่อนเดินทางไปทำงานที่ดูไบ เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ได้มีการตรวจซ้ำในวันที่ 18 ส.ค. พบสารพันธุกรรมในปริมาณน้อย จากนั้นมีการตรวจซ้ำอีกครั้งในวันที่ 20 ส.ค.ไม่พบสารพันธุกรรม ซึ่งตรงกับผลตรวจกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
นอกจากนี้ได้มีการตรวจเพิ่มพิเศษ คือ ตรวจภูมิคุ้มกัน ซึ่งพบว่าเป็นบวก หมายถึงว่าเคยมีการติดเชื้อจริง แต่การติดเชื้อในเชิงวิชาการนั้นโอกาสที่จะเป็นไปได้มีตั้งแต่อยู่ที่ UAE ถึงปัจจุบัน
ด้านนพ.ทวีศิลป์ โฆษก ศบค. ระบุว่า ขณะนี้เท่ากับหญิงไทยคนดังกล่าวไม่ได้ติดเชื้อแล้ว เพียงแต่ต้องให้อยู่ในรพ.ไปก่อน ขณะเดียวกันทีมสอบสวนโรค กำลังเข้าไปติดตามสอบสวนผู้สัมผัสใกล้ชิดกับหญิงรายนี้ จำนวน 24 คน ส่วนสถานที่ต่างๆ ที่หญิงรายนี้ได้เคยเดินทางไปทั้งจ.เลย และกรุงเทพมหานคร ยังสามารถเปิดได้ตามปกติ ไม่ถือเป็นพื้นที่เสี่ยงแต่อย่างใด
ขณะที่ พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า หญิงไทยคนดังกล่าวเดินทางกลับมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.63 และเข้าพัก State Quaratine ที่จังหวัดชลบุรีจนถึงวันที่ 9 ก.ค.63 โดยมีการตรวจหาเชื้อตามกำหนดในวันที่ 29 มิ.ย.63 (Day 3-5) และ 5 ก.ค.63 (Day 11-13) ไม่พบสารพันธุกรรม หลังจากนั้นได้เดินทางกลับจังหวัดเลย โดยมีเพื่อนขับรถยนต์ส่วนตัวมารับ ซึ่งมีผู้ใกล้ชิดเป็นสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนรวม 5 ราย
หลังจากนั้นในเดือน ก.ค.หญิงคนดังกล่าวได้พักอยู่ในจังหวัดเลย และได้ไปเยี่ยมเพื่อนที่คลอดลูกที่โรงพยาบาลปากชม ซึ่งได้สอบสวนพบผู้สัมผัสใกล้ชิดอีก 6 ราย และช่วงวันที่ 12-13 ส.ค.63 ได้ไปรับประทานอาหารในจังหวัดเลยกับเพื่อน 3 ราย ซึ่งได้เก็บตัวอย่างทั้งหมดไปตรวจแล้วอยู่ระหว่างรอผล
วันที่ 16 ส.ค.63 เตรียมตัวกลับไปทำงาน โดยเดินทางมากับพ่อและแม่ มาพักกับเพื่อนอีก 2 คนที่โรงแรมบั๊ดดี้เพลส กรุงเทพฯ ซึ่งมีผู้สัมผัสใกล้ชิด 4 คน คือ เพื่อน 2 คน และแม่บ้านโรงแรมอีก 2 คน ซึ่งสำนักอนามัยเก็บตัวอย่างไปตรวจแล้ว ส่วนผู้ที่มาใช้บริการในช่วงเวลาเดียวกันอีก 104 คน ไม่ถือว่าเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด แต่หากไม่สบายใจสามารถมาขอตรวจได้
วันที่ 18 ส.ค.63 เดินทางด้วยรถแท็กซี่พร้อมเพื่อนทั้ง 2 คน ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลรามาฯ ก่อนเดินทางกลับไปทำงานที่ UAE และตรวจพบสารพันธุกรรม มีผู้สัมผัสใกล้ชิดอีก 5 ราย ซึ่งจะเก็บตัวอย่างไปตรวจต่อไป และอยู่ระหว่างติดตามคนขับรถแท็กซี่
“ถึงแม้จะมีสารพันธุกรรมปริมาณน้อย แต่ด้วยมาตรการที่เรามีอยู่ก็จะติดตามผู้สงสัยติดเชื้อมาตรวจ” พญ.วลัยรัตน์ กล่าว
นพ.ชนเมธ เตชะแสนศิริ รองผู้อำนวยการ รพ.รามาธิบดี กล่าวเสริมว่า ในขณะนี้ถือว่าหญิงรายดังกล่าวไม่ใช่คนป่วยแล้ว เพราะตรวจเชื้อซ้ำ 2 ครั้งเป็นลบ แต่ด้วยการที่เคยตรวจแล้วเป็นบวก 1 ครั้ง และบวกกับมีตรวจเลือดแล้วมีภูมิคุ้มกัน แสดงว่าเคยติดเชื้อในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะอยู่ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา แต่ไม่น่าจะใช่เร็วๆนี้ ถือว่าไม่ได้มีการติดเชื้อ แต่เป็นการติดเชื้อที่เกิดขึ้นในอดีต ซึ่งน่าจะติดเชื้อ 3 เดือนที่ผ่านมาย้อนกลับไปนับตั้งแต่ 18 ส.ค.
“อาจจะติดมาจากตอนที่อยู่ดูไบ หรือมาอยู่ที่ จ.เลย แต่ไม่น่าจะเป็นช่วงที่อยู่ในกรุงเทพเพราะเป็นช่วงที่สั้นมาก ทีมสอบสวนโรคก็เลยลงไปสอบสวนโรคในพื้นที่ต่างๆ ตั้งแต่กลับมาจากต่างประเทศ รวมถึงที่อยู่ที่ State Quarantine ออกจาก State Quarantine ไปที่บ้านและเดินทางไปที่ต่างๆ แต่ผมคิดว่าด้วยข้อมูลระบาดวิทยาที่ผ่านมา เราไม่มีเคสใหม่มานานมาก ไม่มีรายงานคนไข้ที่สงสัย แต่ยังมีการตรวจคนไข้ที่เข้าข่าย PUI แต่เราไม่เจอเคสเลย ซึ่งน่าจะมั่นใจได้ว่าเรายังไม่มีการตรวจพบคนติดเชื้อในประเทศไทย เราเลยมั่นใจว่าโอกาสที่จะติดเชื้อภายในประเทศไทยมีน้อยมาก” นพ.ชนเมธ ระบุ
อย่างไรก็ตาม ให้รอผลการสอบสวนโรคอีกครั้งเพื่อความมั่นใจเนื่องจากสังคมกำลังตื่นตระหนก จึงอยากจะตรวจเพิ่มเติมอีก 1-2 อย่าง เพื่อยืนยันว่าเชื้อที่มีตอนนี้ไม่ใช่เชื้อที่มีชีวิตแล้ว ส่วนสถานที่ต่างๆ ยังสามารถเปิดดำเนินการได้ตามปกติ แต่ขอให้ทุกคนเน้นการปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสม สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือสม่ำเสมอ
“มีการเพาะเชื้อของสิ่งส่งตรวจ นอกจากนี้ยังตรวจพิเศษซึ่งได้ผลกลับมาแล้ว พบว่าชิ้นส่วนพันธุกรรมของเชื้อไม่ได้เป็นชิ้นส่วนพันธุกรรมที่สมบูรณ์ เหมือนเป็นเศษซากของเชื้อ เป็นหลักฐานที่มีอยู่แล้วข้อหนึ่ง แต่ก็อยากจะรอผลเพาะเชื้อเพื่อให้เคลียร์และลดความกังวลของชาวไทยด้วย…สำหรับผู้หญิงคนนี้ต้องเรียกคนเคยติดเชื้อ” นพ.ชนเมธ กล่าว