ALT มั่นใจปีนี้เทิร์นอะราวด์ รับรายได้ค่าเช่าโครงข่ายฯโต! ฟาก 6 เดือนแรกกวาดกำไร 233 ลบ.

นางปรีญาภรณ์ ตั้งเผ่าศักดิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT เปิดเผยว่า บริษัทคาดการณ์ว่าผลประกอบการในปี 2563 จะสามารถพลิกเป็นกำไรสุทธิได้หลังจากช่วง 6 เดือนแรกของปีบริษัทมีกำไรสุทธิ 233.90 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้วมีผลขาดทุนสุทธิ 98.47 ล้านบาท

โดยในส่วนของรายได้รวมในปี 2563 จะมีการเติบโต 10-15% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว ส่วนใหญ่มาจากรายได้ธุรกิจให้เช่าโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทำให้บริษัทมีรายได้ที่แน่นอน

สำหรับรายได้หลักของบริษัทมาจากการให้เช่าโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม โดยมุ่งเน้นจุดยุทธศาสตร์ในประเทศไทย ธุรกิจให้บริการวงจรสื่อสารความเร็วสูง ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ การให้บริการวงจรสื่อสารความเร็วสูง ธุรกิจวางสายเคเบิ้ลใต้น้ำ และธุรกิจให้เช่าใช้บริการโครงข่าวสื่อสารใยแก้วนำแสง โดยมุ่งเน้นด้าน Smart Grid การลงทุนและให้เช่าใช้บริการเสาสื่อสารในเขตส่งเสริม อุตสาหกรรมนวนครจังหวัดปทุมธานี

อีกทั้ง บริษัทยังให้บริการวิเคราะห์ Big Data เพื่อเข้าใจตลาดและพฤติกรรมของลูกค้า และให้บริการ Application platform

นอกจากนี้ บริษัทยังมีการกระจายความเสี่ยงสู่ธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่อง ประกอบด้วยการให้บริการสร้างสถานีฐานและให้บริการติดตั้งอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่ของประเทศไทยให้บริการแก่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมในการวางแผนและขยายโครงข่าย โดยให้บริการแบบครบวงจร นอกจากนี้ยังให้บริการทั้งในด้านการดำเนินการสร้าง และการทดสอบระบบสำหรับอาคารอัจฉริยะ (Intelligence Building) และเมืองอัจฉริยะ (Smart City) โดยดำเนินการผ่านบริษัทย่อย Group Tech Solution (GTS)

อีกทั้ง เป็นผู้ผลิตเสาอากาศรับสัญญาณ (Antenna) โดยเป็นการผลิตสินค้าแบบสั่งทำ หรือออกแบบตามความต้องการของลูกค้า ดำเนินการผ่านบริษัท Innova Telecommunication (Innova)

ขณะที่ก่อนหน้านี้ บริษัทได้เข้าซื้อหุ้น 97.82% ในบริษัท เอ็นเนอร์จี แม็คซ์ จำกัด (EMAX) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายมิเตอร์ไฟฟ้าระบบอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยมูลค่าทั้งสิ้น 25.55 ล้านบาท โดยเป็นการซื้อหุ้นจากบริษัท เอแอลที โฮลดิ้ง จำกัด (ALTH) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 50.69% ในบริษัท อีกทั้งมีผู้ถือหุ้นร่วมและกรรมการร่วมที่เป็นบุคคลธรรมดาอีก 3 ราย

โดยการเข้าซื้อหุ้นใน EMAX ถือเป็นบูรณาการหน่วยธุรกิจของบริษัทให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อรองรับโอกาสที่เติบโตสูงของเทคโนโลยี Smart Grid

นอกจากนี้ บริษัทยังมีความพร้อมที่จะเข้าลงทุนในโครงการต่างๆ ต่อเนื่อง โดยบริษัทได้ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 6 (ALT-W1) ซึ่งจะมีวันกำหนดการใช้สิทธิวันที่ 15 กันยายน 2563 หากมีการใช้สิทธิครบจำนวนบริษัทจะได้รับเงินราว 750 ล้านบาท ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ของบริษัทล่าสุดเหลือเพียง 1.05 เท่า ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน ทำให้มีความพร้อมที่จะจัดหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมได้