BCPG เพิ่มทุน เพิ่มเงินสด
ทันทีที่งบไตรมาสสองหรืองบกลางปีออกมาสวยตามคาด ผู้บริหารและกรรมการของ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG ทำธุรกิจพลังงานที่ยังคงทำอัตรากำไรสุทธิมากกว่า 40% มากที่สุดรายหนึ่งในหัวแถวของบริษัทจดทะเบียน ก็ไม่รอช้า เพิ่มทุนทันทีมากกว่า 65% โดยที่มีทั้งหุ้นสามัญสองแบบคือ ให้ผู้ถือหุ้นเดิมบางส่วน แล้วขายให้นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจงบางส่วน พร้อมออกวอแรนต์ที่มีเงื่อนไขต่างกันมารองรับคนซื้อหุ้นเพิ่มทุน…ตามสูตรพยุงราคาหุ้น
พลวัตปี 2020 : วิษณุ โชลิตกุล
ทันทีที่งบไตรมาสสองหรืองบกลางปีออกมาสวยตามคาด ผู้บริหารและกรรมการของ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG ทำธุรกิจพลังงานที่ยังคงทำอัตรากำไรสุทธิมากกว่า 40% มากที่สุดรายหนึ่งในหัวแถวของบริษัทจดทะเบียน ก็ไม่รอช้า เพิ่มทุนทันทีมากกว่า 65% โดยที่มีทั้งหุ้นสามัญสองแบบคือ ให้ผู้ถือหุ้นเดิมบางส่วน แล้วขายให้นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจงบางส่วน พร้อมออกวอแรนต์ที่มีเงื่อนไขต่างกันมารองรับคนซื้อหุ้นเพิ่มทุน…ตามสูตรพยุงราคาหุ้น
ไม่เหนือกว่าคาดหมายสำหรับการเพิ่มทุนเพื่อหวังระดมทุนกว่า 10,000 ล้านบาท คราวนี้ เพราะบริษัทที่ทำธุรกิจพลังงานไฟฟ้ารายนี้ ยังต้องลงทุนอีกเยอะตามโครงการเติบโตทั้งทางปกติและทางลัดนับกว่า 10,000 ล้านบาท แต่กำไรสะสมของบริษัทค่อนข้างต่ำ
การเพิ่มทุนจาก 2,000 ล้านหุ้น เป็น 3,301.70 ล้านหุ้น คิดเป็นการเพิ่มหุ้นสามัญให้ผู้ถือหุ้นเดิมหรือ RO แค่ 12.5% หรือ 250 ล้านหุ้น ในอัตราส่วน 8 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นเพิ่มทุน ในราคาหุ้นละ 11.50 บาท พร้อมกับออกวอแรนต์ให้ฟรีถึงสองส่วนคือ BCPG-W1 และ BCPG-W2 ในอัตราส่วน 2.80 หุ้นเพิ่มทุน ต่อ 1 หน่วย Warrant (อัตราใช้สิทธ์ 1 หน่วย Warrant ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ราคา 8 บาท / Warrant) โดย BCPG-W1 จำนวน 89.30 ล้านหน่วย จะมีอายุ 2 ปี นับแต่วันที่ออก และ BCPG-W2 จำนวน 89.30 ล้านหน่วย มีอายุ 3 ปี นับแต่วันที่ออก รวมออกวอแรนต์อีก จำนวนหน่วยรวมทั้งสิ้น 178.60 ล้านหน่วย หรือ 7.5% ของทุนเดิม
เป้าหมายสำหรับการขายหุ้น บวกวอแรนต์ ครั้งนี้คือได้รับเงินสดทันทีที่เข้ากระเป๋าบริษัททันที ประมาณ 2,875 ล้านบาท แล้วในอนาคตหลังวอแรนต์ครบอายุอีก ประมาณ 1,428.8 ล้านบาท โดย BCPG-W1
ส่วนการขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง ตั้งเป้าว่าจะเพิ่มหุ้นอีก 141.50 ล้านหุ้น ในราคาขายเดียวกับ RO โดยคาดหวังว่าจะได้เงินสดเข้ามาอีก 1,673 ล้านบาททันที โดยแถม BCPG-W3 จำนวน 78.60 ล้านหน่วย ให้ฟรี ในอัตราส่วน 2.1924 หุ้นเพิ่มทุน ต่อ 1 หน่วย Warrant (อัตราใช้สิทธิ 1 หน่วย Warrant ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ราคา 8 บาท / Warrant) โดย BCPG-W3 จะ มีอายุ 1 ปี นับแต่วันที่ออก โดยที่ 75% ติด silent period 1 ปี ส่วนอีก 25% ติด silent period จำนวน 6 เดือน
การออกแบบเพิ่มทุนรอบนี้เท่ากับในอีก 3 ปีข้างหน้าจะมีเงินสดเข้ามาทุกปีนับจากหุ้นสามัญเพิ่มทุนทันที และจากการแปลงสิทธิ BCPG-W3 ในปีหน้า BCPG-W1 ปีถัดไป และ BCPG-W2 ในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยจะมีเงินสดเข้ามาในบริษัทอีก
เป้าหมายของการเพิ่มทุนครั้งใหญ่ของ BCPG ที่แจ้งเป้าหมายชัดเจนว่า ต้องการเร่งให้มีกระแสเงินสดมากเพียงพอรองรับ EBITDA โต 75% ใน 5 ปีข้างหน้า เป็นเรื่องเข้าใจกันได้ แม้ว่าในระยะสั้น ราคาหุ้นในตลาดจะร่วงลงมาต่ำกว่า 13.00 บาทนับแต่วันประกาศเพิ่มทุน
หากพิจารณาเงื่อนไขการเพิ่มทุน แล้วเทียบกับราคาพาร์ 5.00 บาท และบุ๊กแวลูที่มากกว่า 7.20 บาท ก็มีเหตุผลสนับสนุนว่าโอกาสที่ราคาหุ้นจะกลับขึ้นไปเหนือ 15.00 บาทยังเป็นไปได้ หากแผนธุรกิจและอัตรากำไรสุทธิยังคงแจ่มแจ๋วไม่พลาดเป้าหมาย
ที่ผ่านมา BCPG นับตั้งแต่เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หลายปีก่อน มีอัตรากำไรสุทธิไม่เคยต่ำกว่า 40% มาโดยตลอด มีสินทรัพย์ที่เติบโตต่อเนื่องจากสิ้นปี 2559 ที่ระดับ 2.84 หมื่นล้านบาท เป็น 4.2 หมื่นล้านบาท ในไตรมาสล่าสุด
ปัญหาของ BCPG อยู่ที่การเร่งเติบโตในธุรกิจที่ใช้เงินทุนสูงกว่าปกติ ทำให้บริษัทมีอัตราเติบโตของหนี้แซงหน้าอัตรากำไรค่อนข้างมาก รบกวนให้บุ๊กแวลูของบริษัทไม่เพิ่ม แถมทรงตัวหรือลดลงเสียด้วยซ้ำ แต่ที่สำคัญกว่านั้น สภาพคล่องทางการเงินของบริษัทค่อนข้างฝืดเคืองด้วยซ้ำ ต้องพึ่งพาเงินเบิกเกินบัญชีมาต่อเนื่อง ทำให้ค่า current ratio ต่ำกว่า 1 มาหลายไตรมาส
กระแสเงินสดที่ต่ำเกิน นอกจากทำให้ค่าดี/อีอยู่ในระดับสูง ลดโอกาสการก่อหนี้เพิ่มแล้ว ยังรบกวนการเติบโตในอนาคตค่อนข้างมาก การผ่าทางตันด้วยการเพิ่มทุนจึงเป็นคำตอบที่แก้ปัญหาแบบสารพัดนึกได้ดีทีเดียว
ที่สำคัญ บริษัทแม่ที่ถือหุ้นเกินกว่า 70 % อย่าง BCP ก็พร้อมสนับสนุนการเพิ่มทุนเต็มที่ ทำให้เสมือนการันตีอนาคตของราคาหุ้นโดยปริยาย
การเพิ่มทุนคราวนี้ ที่ทำให้มีหุ้นสามัญเพิ่มขึ้นทันที 32% และในอีก 3 ปีข้างหน้าจะมีจำนวนหุ้นเพิ่มอีกรวมแล้วมากกว่า 60% จึงถือว่าเป็นการปลดล็อกสร้างโอกาสในการก่อหนี้เพิ่ม ซึ่งในอีกมุมคือโอกาสในการเร่งเติบโตนั่นเอง
คำแนะนำส่วนใหญ่ของนักวิเคราะห์ที่บอกว่าให้ถือ กับซื้อ จึงมีความหมายมากกว่าคำว่าเกรงใจอย่างชัดเจน
เรื่องนี้นักลงทุนที่เสียหายจากราคาหุ้นร่วง ที่จะได้รับการปลอบขวัญจากวอแรนต์ฟรีราคาประมาณหน่วยละ 3 บาท ย่อมตัดสินใจได้ว่าควรเชื่อตัวเองหรือนักวิเคราะห์
ที่แน่นอนคือ 3 ปี นับจากนี้ไป BCPG จะหลุดพ้นจากวังวนของปัญหาสภาพคล่อง ส่วนอัตรากำไรสุทธิจะยังดีเหมือนหรือมากกว่าเดิม ต้องรอการพิสูจน์