ระริกระรี้ (เกินงาม)

*หากเปรียบเปรยอารมณ์ของผู้คนในประเทศแบบไม่ดราม่า “โมนิก้า” คิดว่า หลายคนคงมองสถานการณ์เศรษฐกิจต่อจากนี้น่าจะมีอะไรกระเตื้องขึ้นบ้าง เพราะท่ามกลางวิกฤติไวรัสมรณะระบาดหนัก บริษัทจดทะเบียนยังสามารถประคองผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เดี๊ยนถึงมองการไล่ราคาหุ้นสุดลิ่มเที่ยวนี้เป็นการแสดงที่ออกนอกหน้าเกินไปหน่อยก็เท่านั้นเองจ้า


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หากเปรียบเปรยอารมณ์ของผู้คนในประเทศแบบไม่ดราม่า “โมนิก้า” คิดว่า หลายคนคงมองสถานการณ์เศรษฐกิจต่อจากนี้น่าจะมีอะไรกระเตื้องขึ้นบ้าง เพราะท่ามกลางวิกฤติไวรัสมรณะระบาดหนัก บริษัทจดทะเบียนยังสามารถประคองผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เดี๊ยนถึงมองการไล่ราคาหุ้นสุดลิ่มเที่ยวนี้เป็นการแสดงที่ออกนอกหน้าเกินไปหน่อยก็เท่านั้นเองจ้า

*เนื่องจากปลายสัปดาห์ก่อนเพิ่งแสดงอาการหมดใจ แต่พอมาถึงวันนี้กลับแสดงอาการระรื่นอย่างรวดเร็ว “โมนิก้า” ถึงเกิดอาการงงเล็กน้อยเมื่อเห็นอารมณ์ของนักเล่นเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งการขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 1,317.11 จุด บวกไป 17.85 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.7 หมื่นล้านบาท ทั้งที่ช่วงเช้ายังแสดงอาการกระเสาะกระแสะ มันทำให้เดี๊ยนต้องแนะนำแฟนคลับให้เพิ่มสปีดในการเล่นพะยะค่ะ

*สาเหตุที่ต้องเม้าท์ตรงจุดนี้มากเป็นพิเศษ เพราะไม่อยากให้แฟนคลับตั้งความหวังกับการแรลลี่ยาวมากเกินไป เพราะเห็นกันทนโท่ว่า วงรอบของหุ้นแต่ละตัวยังอยู่ในกรอบเดิม ผนวกกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์ก็ยังผลุบ ๆ โผล่ ๆ เหมือนเดิม “โมนิก้า” เลยไม่มีตัวเทียบที่นำมาเป็นแรงสนับสนุนให้ดัชนีวิ่งทะลุแนวต้าน 1,400 จุด จึงขอดูสเต็ปการเล่นแบบวันต่อวันไปสักระยะหนึ่งก่อนนะคะ

*ขนาดหุ้นที่หลายคนมองว่า “พ้นปากเหว” อย่างเช่นน้องมิ้น MINT ยังมีสเต็ปการเล่นแบบ “ดันขึ้นแรง แล้วทยอยปล่อย” จึงกลายเป็นประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” มองการขึ้นมาปิดที่ 21.90 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 7.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.72 พันล้านบาท น่าจะเป็นเกมยาวที่ต้องมีความอดทนค่อนข้างสูง เพราะเที่ยวนี้ต้องไปวัดใจว่า กองทุนจะดันให้ผ่าน  25 บาทไหมเอ่ย ?

*คล้ายกับกรณีของ DELTA ถูกดันปรู๊ดเดียวขึ้นมาปิดที่ระดับ 124 บาท บวกไป 14 บาท หรือขึ้นไป 12.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 934 ล้านบาท ก็เป็นจุดที่ต้องโฟกัสเหมือนกันว่า วันนี้จะมีแรงซื้อเพื่อดันหุ้นขึ้นไปอีกไหม ? เพราะก่อนหน้านี้เพิ่งโดนสาดใส่บริเวณนี้ จนราคาหุ้นลงไปกองแถว 103 บาทไปหยก ๆ จึงเป็นเรื่องน่าเสียวไส้เหลือเกิน หากวันนี้ไม่มีแรงซื้อเข้ามารับไม้ต่อนะจ๊ะ

*ส่วนรายที่น่าจะไปต่อสบาย ๆ เพราะหุ้นเพิ่งขึ้นวันแรก แถมยังมีสตอรี่กำไรให้ติดตามเป็นระยะอย่าง PTTGC ถือเป็นทางเลือกที่ทำให้ “โมนิก้า” สนใจมากเป็นพิเศษในยามนี้ เพราะเมื่อดูองค์ประกอบรอบด้าน เพื่อนำมาช่วยพิจารณาในการลงทุน มันทำให้การขึ้นมายืนปิดที่ 49.25 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 4.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 774 ล้านบาท กลายเป็นแรงขับที่ทำให้หุ้นตัวนี้เด่นขึ้นมาทันทีเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ RBF ถูกอัดแน่นไปด้วยสตอรี่โตต่อเนื่องทุกเมื่อเชื่อวัน จึงกลายเป็นหุ้นที่มี “แรงซื้อ แรงขาย” สลับออกมาไม่เว้นในแต่ละวัน พร้อมกับเปิดโอกาสให้แฟนคลับขาประจำได้เล่นรอบกันอย่างสนุกสนาน “โมนิก้า” เลยไม่แปลกใจที่หุ้นขึ้นมาปิดที่ 10.10 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 7.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 525 ล้านบาท เพราะราคาเป้าหมายที่กูรูสำนักต่าง ๆ ให้ไว้อยู่แถว 11-12 บาทนะซี

*ส่วนคนที่ชอบหุ้น “จิ๋วแต่แจ๋ว” คงโฟกัสไปที่ SMT หลังผู้รู้ส่งเสียงเชียร์กันเจื้อยแจ้วตลอดช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผนวกกับวานนี้หุ้นเพิ่งขึ้นหลังจากโดนถล่มหนัก เดี๊ยนเลยถือโอกาสโหนกระแสกับเขาหน่อย หลังเห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 2.58 บาท บวกไป 0.32 บาท หรือขึ้นไป 14.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 78 ล้านบาท มันทำให้เชื่อว่า หุ้นมีโอกาสวิ่งขึ้นไปถึง 2.80 บาท ต่อจากนั้นก็เดินหน้าขึ้นไปหาแนวต้าน 3 บาทนะจะบอกให้

*ตบท้ายกันที่เรื่องอื้อฉาวของหุ้น SPA กันสักหน่อยดีกว่า หลังมีประเด็นทายาทไปออกสื่อเพื่อเผยเคล็ดลับในการทำธุรกิจให้อยู่รอด แต่ในขณะเดียวกันกลับมีเสียงร่ำลือในหมู่พวกฮาร์ดคอร์ว่า ค้างค่าเช่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เกาะสมุยเป็นเวลานานถึง 5 เดือน แถมผู้ปล่อยเช่ายังกวักมือเรียกให้มาเจรจา เพื่อช่วยกันหาทางออกที่แฮปปี้ทั้งสองฝ่าย แต่ฝั่งสปาดันเพิกเฉยต่อสิ่งที่อีกฝั่งหยิบยื่นให้แบบนี้ สงสัยเรื่องนี้จะจบไม่สวยเสียกระมั้ง !..ถึงกระนั้นเดี๊ยนยังเชื่อในใจลึก ๆ ว่า ยังพอมีเวลาที่จะปรับความเข้าใจกันอีกครั้ง..รักทั้งคู่นะ..จุ๊บ..จุ๊บ !

Back to top button