อาเซียน-UK ยันกระชับความร่วมมือทางศก. เล็งปฏิรูป WTO เชื่อมโยงห่วงโซ่การผลิต
รมต.ศก. อาเซียน-UK ยันกระชับสัมพันธ์การค้าการลงทุน เล็งปฏิรูป WTO เชื่อมโยงห่วงโซ่การผลิต
นายสรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ให้เข้าร่วมการประชุมหารือระหว่างรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน และนางเอลิซาเบธ ทรัส รมว.การค้าระหว่างประเทศของสหราชอาณาจักร (UK) โดยทั้งสองฝ่ายยืนยันที่จะกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุน รวมทั้งความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจากวิกฤตโควิด-19 และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน
นายสรรเสริญ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ ถือเป็นการประชุมครั้งแรกระหว่างอาเซียนกับสหราชอาณาจักร (UK) หลังจาก UK ออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit) เมื่อวันที่ 31 ม.ค.63 โดยได้หารือประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญ และเห็นพ้องจะกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 และฟื้นฟูเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่าย
อาทิ การศึกษาวิเคราะห์และเชื่อมโยงห่วงโซ่การผลิตระหว่างอาเซียน- UK ให้ใกล้ชิดขึ้น การปฏิรูปองค์การการค้าโลก (WTO) เพื่อรับมือกับความท้าทายทางการค้าในศตวรรษที่ 21 และการส่งเสริมนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อให้ภาคธุรกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่ง SMEs ได้ใช้ประโยชน์จากระบบการค้าดิจิทัล การพัฒนาระบบการเงินเพื่อความยั่งยืน (green financial system) การเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงาน และการพัฒนาระบบ โลจิสติกส์ ซึ่งยูเคแสดงความพร้อมที่จะทำงานร่วมกับอาเซียนอย่างเต็มที่
สำหรับในปี 2562 UK เป็นคู่ค้าอันดับที่ 13 ของอาเซียน การค้าระหว่างอาเซียนและ UK มีมูลค่า 37.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 1.3% ของการค้าทั้งหมดของอาเซียน สินค้าส่งออกที่สำคัญของอาเซียนไปยัง UK เช่น เครื่องจักรไฟฟ้าและอุปกรณ์, เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์และชิ้นส่วน, เครื่องจักรและเครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องแต่งกายและเครื่องประดับเสื้อผ้า เป็นต้น สินค้านำเข้าที่สำคัญของอาเซียนจาก UK เช่น เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์และชิ้นส่วน, เครื่องจักรและเครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องจักรไฟฟ้าและอุปกรณ์ สารเคมีอินทรีย์ เป็นต้น
ทั้งนี้ UK เป็นคู่ค้าอันดับที่ 21 ของไทย การค้าระหว่างไทยกับ UK มีมูลค่า 6,260 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกไป UK มูลค่า 3,843 ล้านเหรียญสหรัฐ และไทยนำเข้าจาก UK มูลค่า 2,417 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น ไก่แปรรูป, รถยนต์และอุปกรณ์, รถจักรยานยนต์, อัญมณีและเครื่องประดับ, แผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น สินค้านำเข้าสำคัญ เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ, แผงวงจรไฟฟ้า, เครื่องดื่ม, ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เป็นต้น