ASIAN ส่งซิกครึ่งปีหลังแจ่ม! ออเดอร์ไหลเข้าต่อเนื่อง-ผุดแบรนด์ “ฮาจิโกะ” ตีตลาดทาสหมา
ASIAN ส่งซิกครึ่งปีหลังแจ่ม! ออเดอร์ไหลเข้าต่อเนื่อง-ผุดแบรนด์ “ฮาจิโกะ” ตีตลาดทาสหมา
นายเอกกมล ประสพผลสุจริต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน บริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่ายังอยู่ในทิศทางที่ดี ได้ประโยชน์จากความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีอยู่สูงจากการที่ผู้บริโภคใช้เวลากับสัตว์เลี้ยงและให้อาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น รวมถึงความต้องการของผู้บริโภคในด้านของอาหารกระป๋อง และอาหารบรรจุถุงเพาซ์ (pouch) จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังคงรุนแรงในต่างประเทศ สนับสนุนแนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ปี 2563 คาดจะยังคงเติบโตดีเช่นเดียวกับครึ่งปีแรกที่ผ่านมา แม้ในช่วงไตรมาส 2 คาดว่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี
อย่างไรก็ดี ASIAN มองภาพรวมธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงในปีนี้จะเติบโตโดดเด่น ด้วยปริมาณคำสั่งซื้อจากผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของลูกค้า (OEM) จากลูกค้าทั้งในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ รวมถึงคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหญ่รายใหม่ในญี่ปุ่น โดยมีจุดเด่นในการร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญในการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ ได้ขยายกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์ในกลุ่มถุงเพาซ์เครื่องที่สาม ซึ่งได้ทำการติดตั้งเพิ่มเติมในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อรองรับโอกาสในการเติบโต
นอกจากนี้ ASIAN ขยายธุรกิจมาทำผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงภายใต้แบรนด์ของตนเอง ในชื่อ “มองชู” (Monchou) ในรูปแบบอาหารสุนัขและแมวแบบเปียก (Wet pet food) และแบบเม็ด (Dry pet food) ระดับพรีเมี่ยม ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี มีการปรับปรุงแผนการจำหน่ายและกระจายสินค้าให้ทั่วถึงมากขึ้น และในเดือนกันยายนนี้ได้เปิดตัวแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงแบรนด์ใหม่ “ฮาจิโกะ” เป็นกลุ่มอาหารสุนัข เจาะตลาดราคาย่อมเยาว์ เน้นกลุ่มอาหารเม็ดและขนม หรือ สแน็ค ซึ่งก็ได้รับความสนใจมากในงาน Pet Expo ที่เพิ่งจบไป และมีแผนการวางตลาดในประเทศจีนเร็วๆ นี้
สำหรับภาพรวมธุรกิจในปี 2563 คาดว่า แนวโน้มเป็นไปในทิศทางบวก ประมาณการยอดขายสำหรับปีนี้ คาดจะอยู่ที่ 8,500 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ที่ระดับ 9,200 ล้านบาท เนื่องจาก ยอดขายในกลุ่มทูน่าและกลุ่มอาหารแช่เยือกแข็งที่คาดจะลดลง แม้ว่ากลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงจะยังคงทำยอดได้ตามเป้า โดยมีการปรับเป้าหมายอัตรากำไรขั้นต้นจาก 10-12% เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 13-15% เนื่องจากมีสัดส่วนผลิตภัณฑ์อัตรากำไรสูงเพิ่มขึ้นชัดเจนในทุกกลุ่มธุรกิจ ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นในช่วงครึ่งปีหลังมีโอกาสบางลงกว่าครึ่งปีแรกจากการแข็งค่าของเงินบาทเป็นสำคัญ
“ปีนี้เราได้เห็นพัฒนาการและแนวโน้มที่ดีขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจที่สามารถเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ มุ่งเน้นขยายตลาด โดยเฉพาะธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงยังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ มีสัดส่วนของพอร์ตอยู่ที่ประมาณ 42% ของรายได้รวม และไฮไลท์ในธุรกิจอาหารแช่เยือกแข็ง (Frozen) มีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 32% พลิกกลับมาทำผลงานได้ดีกว่าปีก่อนๆ มีความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น จากการปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ควบคู่การบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยบริษัทได้นำเครื่องจักรเข้ามาทดแทนแรงงานคน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และรองรับการเติบโตในอนาคต เนื่องจากขณะนี้กำลังการผลิตเริ่มเต็ม จากความต้องการสินค้าในกลุ่มอาหารทอดแช่เยือกแข็ง (Pre-Fried) เติบโตขึ้นมาก โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่สามารถปรุงรับประทานเองที่บ้านได้สะดวก และสอดคล้องกับเทรนด์การบริโภคของว่างหรือขนมขบเคี้ยวมื้อเล็กๆ หลายมื้อต่อวัน แทนที่การบริโภคมื้อหลัก 3 มื้อ สนับสนุนภาพรวม ASIAN ในปีนี้ สามารถเติบโตทุบสถิติในแง่ของกำไรที่โดดเด่นขึ้น หลังไตรมาส 2/63 อัตรากำไรขั้นต้นทำสถิติสูงสุดอยู่ที่ 18.9%” นายเอกกมล กล่าว