สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 9 ก.ย. 2563

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 9 ก.ย. 2563


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ร่วงลงอย่างหนักในช่วงหลายวันที่ผ่านมา โดยหุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่ได้ประโยชน์จากการที่ประชาชนต้องทำงานจากที่บ้านเพื่อหลีกเลี่ยงการระบาดของโควิด-19 ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงหุ้นไมโครซอฟท์ และแอมะซอนดอทคอม

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,940.47 จุด เพิ่มขึ้น 439.58 จุด หรือ +1.60% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,398.96 จุด เพิ่มขึ้น 67.12 จุด หรือ +2.01% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,141.56 จุด เพิ่มขึ้น 293.87 จุด หรือ +2.71%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) โดยดีดตัวขึ้นก่อนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่นักลงทุนกลับมามีความหวังเกี่ยวกับการผลิตวัคซีนต้านโรคโควิด-19 อีกครั้ง หลังแอสตร้าเซนเนก้าเปิดเผยว่า อาจเริ่มการทดลองวัคซีนต้านโรคโควิด-19 อีกครั้งในสัปดาห์หน้า

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 1.62% ปิดที่ 369.65 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,237.21 จุด เพิ่มขึ้น 268.88 จุด หรือ +2.07%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,042.98 จุด เพิ่มขึ้น 69.46 จุด หรือ +1.40% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,012.84 จุด เพิ่มขึ้น 82.54 จุด หรือ +1.39%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) โดยหุ้นกลุ่มส่งออกได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาเรื่องการทำข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรป (EU)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,012.84 จุด เพิ่มขึ้น 82.54 จุด หรือ +1.39%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากราคาน้ำมันร่วงลงติดต่อกันหลายวันก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของรัฐบาลสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.29 ดอลลาร์ หรือ 3.5% ปิดที่ 38.05 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.01 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 40.79 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้เพิ่มความน่าดึงดูดให้กับราคาทองคำ อย่างไรก็ดี ช่วงบวกของราคาทองได้ถูกจำกัดในระหว่างวัน หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากแรงช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 11.7 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,954.9  ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 9.2 เซนต์ หรือ 0.34% ปิดที่ 27.083 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 14.6 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 924.9 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 12.40 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 2,318.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) หลังมีข่าวว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้อและข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.20% แตะที่ 93.2586 เมื่อคืนนี้

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1808 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1780 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2989 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2990 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7270 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7215 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9125 ฟรังก์ จากระดับ 0.9173 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3163 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3222 ดอลลาร์แคนาดา แต่เมื่อเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์แข็งค่าแตะที่ระดับ 106.21 เยน จากระดับ 106.03 เยน

Back to top button