ดอลล์ร่วงหลังหุ้นทั่วโลกดิ่งกระทบคาดการณ์ขึ้นดอกเบี้ย
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (24 ส.ค.) เนื่องจากการร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลกได้ส่งผลกระทบต่อคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในปีนี้
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1591 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1359 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5773 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5703 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 118.62 เยน จาก 122.06 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9336 ฟรังก์ จาก 0.9486 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7184 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7329 ดอลลาร์
ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงหลังจากเปิดตลาดเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 16,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ.2557 ขณะเดียวกน ตลาดหุ้นจีนก็ปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในรอบ 8 ปี โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตดิ่งลง 8.49% ปิดที่ 3,209.91 จุดเมื่อวานนี้ ส่วนหุ้นยุโรปก็ร่วงลงเมื่อคืนนี้ หลังจากดิ่งลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 5.3% ปิดที่ 342.01 จุด
บรรดานักวิเคราะห์ระบุว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอจากจีนได้จุดปะทุความวิตกว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนที่ย่ำแย่อาจส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลง ซึ่งนั่นทำให้มีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยนักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมเพิ่มสูงขึ้นสำหรับบริษัทและผู้บริโภค ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลก