TTCL มองระยะยาวกำไรปกติเพียงทรงตัวเหตุมีภาระดบ.-ขาดแรงเสริมจากโรงไฟฟ้า

TTCL ปรับประมาณการกำไรปกติ ใน 58-59 ลง 44%, 55% และ 53% ตามลำดับ โดยเราได้ส่งสัญญาณการปรับลดไว้ตั้งแต่ 14 ส.ค. 58 ซึ่งราคาหุ้นได้ปรับตัวลงราว 10% ในช่วงเดือนเดียวกัน (Vs. cons index ที่ปรับตัวขึ้นเพียง 0.8%) จากผลกระทบของ i) อัตรากำไรขั้นต้นส่วนของการก่อสร้างที่ต่ำกว่าคาด ii) ดอกเบี้ยจ่ายที่สูงกว่าคาด และ iii) การก่อสร้างโรงไฟฟ้า 1,280 MWที่ใช้เวลานานขึ้น พร้อมกันนี้เราได้ปรับไปใช้ TP ปี 59 ที่ 27.1 บาท/หุ้น และปรับลดคำแนะนำเป็น NEUTRAL จากคาด i) ในระยะสั้นยังมีแรงกดดันจากการปรับลดประมาณการของตลาด (ประมาณการกำไรของเราต่ำกว่าตลาด 45%) และ ii) ในระยะยาวแนวโน้มกำไรปกติเพียงทรงตัวในช่วง 58-60 ไม่สดใสเหมือนเดิม แม้ภาพธุรกิจก่อสร้างยังเติบโต จากที่มีแรงกดดันจากภาระดอกเบี้ยจ่าย ประกอบกับยังไม่มีแรงเสริมจากโรงไฟฟ้า 1,280 MW (คาดเริ่มผลิตปี 2565)


บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (25 ส.ค.) ว่า ปรับประมาณการกำไรปกติ บริษัท ทีทีซีแอล จำกัด (มหาชน) หรือ TTCL ใน 58-59 ลง 44%, 55% และ 53% ตามลำดับ โดยเราได้ส่งสัญญาณการปรับลดไว้ตั้งแต่ 14 ส.ค. 58 ซึ่งราคาหุ้นได้ปรับตัวลงราว 10% ในช่วงเดือนเดียวกัน (Vs. cons index ที่ปรับตัวขึ้นเพียง 0.8%) จากผลกระทบของ i) อัตรากำไรขั้นต้นส่วนของการก่อสร้างที่ต่ำกว่าคาด ii) ดอกเบี้ยจ่ายที่สูงกว่าคาด และ iii) การก่อสร้างโรงไฟฟ้า 1,280 MWที่ใช้เวลานานขึ้น พร้อมกันนี้เราได้ปรับไปใช้ TP ปี 59 ที่ 27.1 บาท/หุ้น และปรับลดคำแนะนำเป็น NEUTRAL จากคาด i) ในระยะสั้นยังมีแรงกดดันจากการปรับลดประมาณการของตลาด (ประมาณการกำไรของเราต่ำกว่าตลาด 45%) และ ii) ในระยะยาวแนวโน้มกำไรปกติเพียงทรงตัวในช่วง 58-60 ไม่สดใสเหมือนเดิม แม้ภาพธุรกิจก่อสร้างยังเติบโต จากที่มีแรงกดดันจากภาระดอกเบี้ยจ่าย ประกอบกับยังไม่มีแรงเสริมจากโรงไฟฟ้า 1,280 MW (คาดเริ่มผลิตปี 2565)

คาดแนวโน้มกำไรปกติในช่วง 58-60 เป็นเพียงทรงตัว ไม่ดึงดูดเมื่อเทียบกับในช่วง 2555-2557 ที่เติบโตได้เฉลี่ย 11% CAGR แม้การได้งานก่อสร้างใหม่จะเป็นไปในทิศทางเดียวกับที่เราคาด และสามารถทำได้สูงกว่าที่เราคาดไว้ แต่ด้วย GPM ในส่วนของการก่อสร้างที่ไม่สดใสเหมือนในอดีต ตามสภาพการแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดงาน EPC ขนาดใหญ่ ทำให้แรงกดดันจากภาระดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นตามความต้องการเงินกู้ในโครงการโรงไฟฟ้า (Ahlone และ 1,280 MW) ซึ่งเป็นโครงการลงทุนที่อยู่ในช่วงต้น สูงขึ้น และกดดันต่อการทำกำไรของบริษัท ทั้งนี้เราคาดบริษัทจะผ่านช่วงเวลาที่ไม่สดใสไปได้ เมื่อโรงไฟฟ้า 1,280 MW เริ่มดำเนินการผลิตไฟฟ้า

คงมุมมองธุรกิจก่อสร้างของ TTCL ยังมั่นคงในระยะยาว และคาดบริษัทจะได้รับงานเพิ่มใน 58-60 เฉลี่ยประมาณ 35,857 ล้านบาทต่อปี สูงกว่าในช่วงปี 55-57 และ 2552-2554 ถึง 90% และ 333% ตามลำดับ จากการก้าวไปตลาด Mid-tier EPC Contractor ประสบความสำเร็จดี นอกจากนี้เราคาดยังมีปริมาณงานก่อสร้างในตลาดอยู่มาก โดยจะเห็นได้จากมูลค่างานที่บริษัทยื่นประมูลยังสูงต่อเนื่อง (64,260 ล้านบาท) และกระจายมากกว่า 3 อุตสาหกรรม

ยังคงมุมมองว่าโครงการโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ 1,280 MW ที่ประเทศพม่า จะมาเสริมความแข็งแกร่งของ recurring income ให้กับ TTCL ในระยะยาว (คาดเริ่มผลิตไฟฟ้าปี 2565) โดยจะเพิ่มรายได้ให้เฉลี่ยถึง 28,000 ล้านบาทต่อปี หรือเพิ่มขึ้นมากว่า 1 เท่าตัว (Vs. รายได้ก่อสร้างเฉลี่ย 58-60 อยู่ที่ราว 22,000 ล้านบาท) โดยคาดจะทราบความคืบหน้าของการเจรจาค่าไฟฟ้าในช่วงไตรมาส  4/58 และคาดเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงครึ่งแรกปี 59

Back to top button