ธุรกิจเผือกม็อบ ?

ทัวร์ลง “ปลาวาฬ วรสิทธิ์ อิสสระ” หลังอัดคลิปฉะ “รุ้ง ปนัสยา” แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ชาวม็อบชวนกัน #แบนศรีพันวา


ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

ทัวร์ลง “ปลาวาฬ วรสิทธิ์ อิสสระ” หลังอัดคลิปฉะ “รุ้ง ปนัสยา” แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ชาวม็อบชวนกัน #แบนศรีพันวา

แม้ไม่สะดุ้งสะเทือน เพราะชาวบ้านธรรมดาไม่มีปัญญาไปเหยียบ “จะแบนก็แบนไป ไม่ใช่ลูกค้าผม” แต่ผลที่ตามมาคือการตรวจสอบที่ตั้ง มีโฉนดหรือไม่ ออก นส.3 ได้อย่างไร (ฝากถามเรื่องการถือครองชายหาดส่วนตัวด้วย)

ทั้งยังไปตรวจสอบหุ้น พบว่ากองทุนประกันสังคมของผู้ใช้แรงงานเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในทรัสต์ศรีพันวา แม้ตัวทรัสต์ไม่ได้ขาดทุนเหมือนรีสอร์ต ยังได้กำไร แต่ก็ถูกกังขาว่าเป็นการลงทุนที่เหมาะสมหรือไม่ มีการใช้เส้นสายหรือไม่ ฯลฯ

นั่นละ ปลาวาฬ อิสสระ คงโดนกระแสโซเชียลไล่ตรวจไล่ขุดอีกเยอะ ถ้าไม่มีแผลก็รอดไป แต่คงเป็นเป้าความไม่พอใจอีกนาน

ถามว่าม็อบล้ำเส้น bully ไฮโซทายาทมหาเศรษฐีหรือไม่ ถ้าแสดงความเห็นต่างก็ไม่เป็นไร แต่ไม่ใช่บริภาษและชี้ให้ “จับเด็กคนนี้” ซ้ำร้ายเมื่อย้อนประวัติ ครอบครัวอิสสระก็ภาคภูมิใจในความเป็น กปปส. การไปต่อว่าคนอื่น ล้ำเส้น ละเมิดสิทธิ ฯลฯ จึงพูดได้ไม่เต็มปาก

พูดอย่างนี้คือ คนในภาคธุรกิจสามารถแสดงความเห็นต่าง แสดงความเห็นทางการเมืองที่ไม่เห็นด้วยกับม็อบก็ได้ แต่ไม่ใช่ปลุกความเกลียดชัง หรือล้ำเส้นหนุนให้รัฐใช้อำนาจเล่นงาน ซึ่งเป็นประเด็นอ่อนไหว เพราะรัฐใช้อำนาจคุกคามการเคลื่อนไหวอย่างหนักอยู่แล้ว

นอกเหนือจากนั้น คนวิจารณ์ก็อย่าลืมกำพืดตัวเองด้วย ว่าเคยทำอะไรในอดีต เช่น วรวรรณ ธาราภูมิ อดีตประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย โพสต์ว่าผิดหวังม็อบ ไม่เห็นประโยชน์ที่จะสนับสนุน ก็โดนย้อนถาม สนับสนุนตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อ 6 ปีก่อนก็หนุน “ลุงกำนันสู้ ๆ” ปิดเมืองขัดขวางเลือกตั้งไม่ใช่หรือ

พยายามจะย้อนดูเฟซเธอ ว่าเคยเชียร์ม็อบเมื่อไหร่ ก็ดูไม่ได้ ไม่เปิดสาธารณะเสียแล้ว แต่ช้าไปหน่อย เพราะสิ่งที่เธอโพสต์ไว้เมื่อปี 56-57 ถูกแคปเกลื่อนไปหมด

เท่าที่ย้อนดู สำนักข่าวบางแห่งเอาโพสต์มาลง ตอนมีม็อบนักเรียนเลว ก็บอกว่า “แตกร้าวจากต้นถึงปลายเหมือนผ่าลำไผ่” ทำนองว่ามีต่างชาติต้องการทำลายอารยธรรมของประชาชาติไทย เด็ก ๆ โดนล้างสมอง ร้อยจมูกลากจูงให้เดินจนเชื่องยิ่งกว่า…

“เริ่มจากให้เขาเอาขีปนาวุธมาตั้งในบ้านเรา เพื่อโอบล้อมจีน จะดีไหม ปฏิบัติการณ์ Disrupt Thailand ช่างทำได้สมบูรณ์แบบเสียจริง !”

อ่านแล้วขำกลิ้ง อดีตประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทยมองคนรุ่นใหม่อย่างนี้ มองปัญหาขัดแย้งทางการเมืองไม่ต่างจาก “อุ๊ แวนโก๊ะ” หรือหมอวรงค์ ทำให้งงว่า ตัวแทนตลาดทุนไทยมีภูมิปัญญาแค่นี้เองหรือ

“ถือทิฐิ มืดบอด ขาดวิสัยทัศน์รู้แจ้ง มองฝ่ายอื่นที่คิดต่างเป็นศัตรูด้วยความโกรธและเกลียดชังกัน”  อ้าว อันนั้นไม่ใช่ กปปส.หรือ

อันที่จริงจำได้ว่า ตอนมีม็อบใหม่ ๆ วรวรรณก็เคยวิจารณ์รัฐบาล ไม่ค่อยพอใจการบริหารเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการเปลี่ยนม้ากลางศึก ไล่สมคิดและสี่กุมาร อยากเห็นรัฐบาลที่มีฝีมือกว่านี้ เข้าใจประชาชน เปิดรับฟังปัญหา ถ้าไม่ไหวก็ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ บลา ๆ ๆ

แต่ไป ๆ มา ๆ ม็อบไม่เป็นอย่างที่คาดไว้ เพดานของคนรุ่นใหม่ไปไกลกว่าเพดานที่เธอตั้งไว้ ซึ่งก็น่าจะเหมือนนักธุรกิจส่วนใหญ่ อยากให้หาทางลงโดยสงบ แก้รัฐธรรมนูญได้ก็ดี เปลี่ยนรัฐบาลได้ก็ดี แต่อย่ามาแรงจนน่ากลัว อย่าแตะต้องเรื่องล่อแหลม หาทางเจรจาเถอะ

ซึ่งมันเป็นไปได้ยาก ไม่ใช่แค่เรื่องนั้นหรอก ทุกเรื่องแหละ ปัญหามันสั่งสมจนจะระเบิด เป็นภาวะ Disruption ที่อยากให้เป็นไปตามคาดหวังคงไม่มีทาง

Back to top button