STA อู้ฟู่! ราคายางพุ่งแรง หนุนกำไรปีนี้เทิร์นอะราวด์

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” STA ราคาเป้าหมาย 41 บาท/หุ้น โดยราคายางอยู่ในระดับสูงจากความต้องการถุงมือยางที่มีต่อเนื่องราคายางปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องอยู่ที่ 139 cent/kg.(+22% QTD) ในตลาด SICOM และ224 JPY/kg.(+49% QTD)ในตลาด TOCOM ในปลายเดือน ก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ ก.ค.2562 โดยปัจจัยที่หนุนเข้ามาในช่วงนี้คือ ความต้องการถุงมือยางที่ปรับตัวขึ้นเพิ่มขึ้นมากจากการกลับมาระบาดของ COVID-19

ทั้งนี้มีมุมมองเป็นบวก เพราะความต้องการถุงมือยางที่เพิ่มขึ้นจากการกลับมาระบาดอีกครั้งของโควิด-19 รวมถึงการที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯและภริยาติดโควิด กระตุ้นให้ผู้บริโภคเห็นคุณค่าของการป้องกันตนเองอย่างเข้มงวดมากขึ้น ทำให้ความต้องการถุงมือยางยังคงเพิ่มขึ้นมาก

ขณะที่อีกปัจจัยหนึ่งโดยประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดผู้รับซื้อยางรายใหญ่ของโลก มีมาตรการสนับสนุนการขยายกำลังการผลิตรถยนต์ทำให้ยอดสั่งซื้อยาง เพื่อนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตล้อยางและชิ้นส่วนต่างๆ เพิ่มขึ้น โดยราคายางยังมีแนวโน้มที่ดีในไตรมาส 3 และ 4 จากผู้ประกอบการล้อยางรถยนต์กลับมาเดินการผลิตได้มากขึ้นประมาณ 70-80% ซึ่งคาดว่า โดยราคายางแท่งยังอยู่ในระดับใกล้กับสมมติฐานของบล.เคทีบี (ประเทศไทย) ที่ 42 บาทต่อกก. แต่หากครึ่งหลังปี 2563 ยังอยู่สูงในระดับ 44-45 บาทต่อกก. โดยตลอดมีโอกาสที่ราคายางจะสูงกว่าสมมติฐานของบล.เคทีบี (ประเทศไทย) และอาจจะปรับประมาณการขึ้น

ทั้งนี้คงกำไรสุทธิของ STA ในปี 2563 อยู่ที่ 4.6 พันล้านบาท ดีขึ้นจากขาดทุนในปีก่อน 149 ล้านบาท และคงกำไรสุทธิปี 2564 อยู่ที่ 4.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบจากปีก่อน ราคาหุ้นและราคายางมีความสัมพันธ์กันค่อนข้างมาก (Fig 2.) STA จึงมีโอกาสได้รับผลดีจากราคายางที่ปรับตัวสูงขึ้น

คงแนะนำ ซื้อ กลุ่มผู้ประกอบการถุงมือยางและยางธรรมชาติ ทั้งนี้เราคงคำแนะนำ ซื้อ STA ราคาเป้าหมาย 41 บาท อิง PER ที่ 14 เท่า เทียบเท่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี