BANPU ข่าวดีผสมร้าย.?

สำนักข่าวรัชดา

ถ้าพูดถึงบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU คนก็จะนึกถึงถ่านหิน…พูดถึงถ่านหิน คนก็จะนึกถึง BANPU เป็นรายแรก ๆ เสมอ แต่ในช่วงเกือบทศวรรษที่ผ่านมา ธุรกิจถ่านหินไม่ได้ลุกโชติช่วงชัชวาลเหมือนอดีต ในทางกลับกันมีแต่จะมอดไหม้ซะด้วยซ้ำ…

เนื่องจาก 1) เทรนด์รักษ์โลกกำลังมา ในขณะที่ถ่านหินถูกตราหน้าว่าเป็นพลังงานสกปรก ทำลายสิ่งแวดล้อม และ 2) มีพลังงานใหม่ ๆ มาทดแทนถ่านหิน แม้มีต้นทุนสูง แต่มีความเป็นมิตรกับธรรมชาติ ทำให้ความสำคัญของถ่านหินค่อย ๆ ถูกลดทอนลง

ส่งผลให้ผลประกอบการ BANPU ช่วงหลายปีที่ผ่านมา กำไรเปรอะเปื้อนด้วยคราบเขม่าถ่านหิน…กลายเป็นโจทย์ที่ทำให้ BANPU ต้องแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ…

ก่อนหน้านี้ ไปลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าในนามบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP และถือโอกาส Spin-Off BPP เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เลยทำให้ BANPU สถานการณ์ดีขึ้น..!!

แต่แค่นั้นไม่พอ…ก็เลยไปเข้าลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา โดยก่อนหน้านี้ไปตกลงซื้อขายแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ (Barnett) ในรัฐเทกซัส มูลค่า 570 ล้านเหรียญสหรัฐ มีการจ่ายค่ามัดจำไปแล้ว 170 ล้านเหรียญสหรัฐ

ล่าสุดซื้อเสร็จสิ้นแล้ว โดยเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา จ่ายเงินก้อนสุดท้ายไปจำนวน 319.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 10,105 ล้านบาท

เท่ากับว่า จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตธุรกิจก๊าซธรรมชาติของ BANPU อย่างมีนัยสำคัญ…

ถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับ BANPU ที่จะมีรายได้นอน-ถ่านหินมากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้ต้องพึ่งพิงธุรกิจโรงไฟฟ้าเพื่อชดเชยธุรกิจถ่านหินที่กำลังจะดับลง

มาคราวนี้ก็เป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติที่เปิดดำเนินการแล้ว ก็เริ่มรับรู้รายได้ได้ทันที..!!

ก็น่าจะช่วยลดภาพความมอมแมมของ BANPU ได้ไม่มากก็น้อย…

แต่ท่ามกลางบรรยากาศข่าวดี ก็มีข่าวร้าย…ราคาก๊าซธรรมชาติอยู่ในช่วงทรงตัว หรือย่อตัว เนื่องจากราคาน้ำมันอยู่ในช่วงขาลง ทำให้ราคาก๊าซธรรมชาติซึ่งอ้างอิงราคาน้ำมันได้รับผลกระทบไปด้วย ทำให้การรับรู้ธุรกิจใหม่ (แหล่งก๊าซธรรมชาติ) ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเท่าที่ควร…ไม่ต่างจากข่าวดีผสมร้าย..!!

แหม๊…น่าเสียดายจัง อุตส่าห์มีข่าวดีแท้ ๆ

ส่วนที่เห็นเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน อยู่ ๆ ราคาหุ้น BANPU ก็ร้อนฉ่าแบบผิดหูผิดตานั้น…เกิดจากการเข้ามาเก็งกำไรตามราคาถ่านหินที่ฟื้นตัวขึ้น โดยล่าสุดสัญญาส่งออกเดือน ม.ค. 2564 อยู่ที่ 64.3 เหรียญสหรัฐต่อตัน สูงขึ้นจากเมื่อต้นเดือน ก.ย.ที่อยู่บริเวณ 57.6 เหรียญสหรัฐต่อตัน

แต่ถ้าดูไส้ในจริง ๆ จะพบว่า การฟื้นตัวของราคาถ่านหินรอบนี้ ไม่ได้เกิดจากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น แต่เป็นผลจากซัพพลายที่น้อยลง และราคาถ่านหินปัจจุบันก็ยังอยู่ในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับอดีตที่เคยอยู่ที่กว่า 100 เหรียญสหรัฐต่อตัน การขยับขึ้นของราคาถ่านหินครั้งนี้จึงเป็นแค่การฟื้นตัวจากราคาที่ต่ำมากเท่านั้น…

ดังนั้น ต้องถามใจเธอดูว่า พร้อมที่จะเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน..?

ก็นานาจิตตังอะนะ…

ขณะที่วานนี้ราคาหุ้น BANPU ปรับลดลง 3.12% ปิดตลาดที่ระดับ 6.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 538 ล้านบาท

เข้าตำรา สูงสุดคืนสู่สามัญนั่นแหละ..!!

หรือสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม…

…อิ อิ อิ…