เน้นสั้นก่อนเน้นยาว
*หากเม้าท์ถึงสถานการณ์ที่ทำให้ “โมนิก้า” ตื่นเต้นสุด ๆ คงเป็นเรื่องเกี่ยวกับ “การเมือง” มากกว่า “ตลาดหุ้น” ซึ่งเป็นผลมาจากบรรยากาศการเมืองในประเทศ และต่างประเทศ ล้วนมีช็อตที่ทำให้ตะลึงไม่ว่างเว้น พร้อมกับก่อให้เกิดเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ตามหลังมามากมาย จึงมีเรื่องให้ลุ้นตลอดเวลาว่า ผลลัพธ์ของเรื่องดังกล่าวจะออกมาเป็นแบบไหน ? ผนวกกับเดี๊ยนก็ชอบเผือกเรื่องพรรค์นี้เสียด้วย เลยมีเรื่องเม้าท์ไม่หยุดหย่อน..อิอิอิ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*หากเม้าท์ถึงสถานการณ์ที่ทำให้ “โมนิก้า” ตื่นเต้นสุด ๆ คงเป็นเรื่องเกี่ยวกับ “การเมือง” มากกว่า “ตลาดหุ้น” ซึ่งเป็นผลมาจากบรรยากาศการเมืองในประเทศ และต่างประเทศ ล้วนมีช็อตที่ทำให้ตะลึงไม่ว่างเว้น พร้อมกับก่อให้เกิดเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ตามหลังมามากมาย จึงมีเรื่องให้ลุ้นตลอดเวลาว่า ผลลัพธ์ของเรื่องดังกล่าวจะออกมาเป็นแบบไหน ? ผนวกกับเดี๊ยนก็ชอบเผือกเรื่องพรรค์นี้เสียด้วย เลยมีเรื่องเม้าท์ไม่หยุดหย่อน..อิอิอิ
*โดยเฉพาะเรื่อง “กราบ” สะท้านแผ่นดินเกิดขึ้นก่อนอุณหภูมิการเมืองเดือนตุลาฯ จะดุเดือดเลือดพล่าน (เขาโหมโรงไว้แบบนั้น แต่จะเป็นจริงไหม ต้องดูกันต่อไป) “โมนิก้า” เลยมองเป็นจุดเปลี่ยนที่สามารถออกได้ทุกหน้า และที่แน่ชัดคือ พวกส้มหวานที่เคยออกมาเต้นแร้งเต้นกา กลับหุบปากเงียบอย่างไม่น่าเชื่อแบบนี้ มันทำให้เห็นแล้วว่า การชุมนุมในรูปแบบต่าง ๆ ต่อจากนี้น่าจะฝ่ออย่างแน่นอนเจ้าค่ะ
*ด้วยสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” มีความมั่นใจมากขึ้นไปอีกขั้นว่า “การเมือง” กับ “ตลาดหุ้น” ได้ถูกแยกขาดจากกันเป็นที่เรียบร้อย ส่งผลให้การแกว่งตัวขึ้น ๆ ลง ๆ ของดัชนีถูกผูกติดกับเศรษฐกิจ และอิทธิพลตลาดหุ้นต่างประเทศเป็นหลัก เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับเข้าใจเหตุผลที่ดัชนีเด้งขึ้นมาปิดที่ 1,242.99 จุด บวกไป 5.45 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 3.94 หมื่นล้านบาท มันคือเรื่องเดิม ๆ ที่เห็นกันหลายรอบนะคะ
*ในเมื่อปัจจัยส่วนใหญ่ยังวนเวียนในมุมเดิมแทบทั้งหมด “โมนิก้า” ถึงมองรูปแบบเล่นหุ้นเป็นการปั่นรอบให้ถี่ขึ้นมากกว่าเดิม ซึ่งจะเป็นการดันกลับช่วงสั้น ๆ หลังจากไหลลงแรงเป็นประจำ ส่งผลให้โมเมนตัมของตลาดหุ้นยังไซด์เวย์ดาวน์เหมือนเดิม เดี๊ยนถึงไม่ต้องกล่าวอะไรให้ยืดเยื้อไปจากที่เคยเกริ่นนำไว้ เพราะมองไม่เห็นมุมที่แตกต่างไปจากเดิมเลยพับผ่าซิ!
*ประเด็นนี้ดูได้จากหุ้นยางมะตอย TASCO เพราะเห็นกันชัด ๆ ว่า เมื่อสองสัปดาห์ก่อนพยายามดันหุ้นกันมาแล้ว แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดอยู่ดี เลยโดนรินหุ้นออกมาเรื่อย ๆ ก่อนจะกลับมาดันเต็มตัวสองวันติด จนราคาหุ้นวิ่งขึ้นมายืนปิดที่ 16.30 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 4.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.65 พันล้านบาท ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่นักเล่นหัวใจสิงห์น่าจะกระโดดลงไปวัดดวง เพราะพื้นฐานไม่เอื้อ แต่หัวใจพร้อมลุย..อิอิอิ
*หากเหนื่อยใจกับหุ้นใหญ่ อาจเบนเข็มไปหาหุ้นทางเลือกอย่าง SVOA เพื่อให้สอดรับกับกระแสหุ้นไอทีมาแรงแซงทุกโค้งเสียหน่อย เพราะอาการกระชากขึ้นมาปิดที่ 1.45 บาท บวกไป 0.19 บาท หรือขึ้นไป 15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 262 ล้านบาท ท่ามกลางความคาดหวังผลงานในไตรมาสถัดไปจะออกมาดี มันกลายเป็นช็อตที่ทำให้เดี๊ยนต้องคล้อยตามไปด้วยโดยไม่มีข้อแม้ หลังราคาที่เคาะขวาวันนี้ยังอยู่แค่ P/E 11 เท่าเองนะจ๊ะ
*ส่วนคนที่ต้องการเพิ่มความเสียวให้กับชีวิตตัวเองอีกนิดหน่อย “โมนิก้า” ขอให้หันมาดูหุ้นขายเครื่องสำอางอย่าง KAMART กันสักนิดหนึ่ง เพราะการเคาะขวาวานนี้มาแบบจัดเต็ม ส่วนจะเล่นยาวกันขนาดไหน ? คงต้องดูประวัติเก่าที่พูดถึงเรื่องนี้ไว้ว่า 5 ครั้งที่ผ่านมา ก็จอดป้ายแถวนี้แหละ ! จึงอยากให้แฟนคลับดูกันเอาเองว่า การยืนปิดที่ 3.54 บาท บวกไป 0.56 บาท หรือขึ้นไป 18.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 261 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้เล่นกันอีกไหมจ๊ะ
*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันไปดูหุ้นฉีดพลาสติก MBAX เพื่อชี้ให้เห็นการไล่ราคาอย่างคึกคักไม่ธรรมดาจริง ๆ ยิ่งถ้าย้อนกลับไปดูในโครงสร้างกำไรที่โตเท่าตัวกับปีก่อน ก็จะเข้าใจสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 7.95 บาท บวกไป 1.15 บาท หรือขึ้นไป 16.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 145 ล้านบาทอย่างถ่องแท้ และที่ขาดไม่ได้เลยคือ วันนี้หุ้นเทรดบน P/E 11 เท่าเองนะคุณพี่ !
*เม้าท์ถึงหุ้นสตอรี่สวย ๆ ดี ๆ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น DOD ภายใต้การบัญชาของหญิงแกร่งอย่าง “น้องผึ้ง” ซึ่งกำลังแฮปปี้สุด ๆ กับผลงานของบริษัท แถมเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็เพิ่งเอนจอยกับการรับหน้าที่ปูที่นอนให้กับหลานรักที่เพิ่งเข้าประตูวิวาห์ และเพื่อความเป็นมงคลเลยใช้แบงก์ปูแทน เดี๊ยนเลยไม่แปลกใจที่มีคนอยากให้คุณน้องไปปูเตียงให้บ้าง ! ส่วนคนในแวดวงตลาดหุ้นก็ไม่ต้องการอะไร เพราะแค่เห็นหุ้นพยายามขึ้นต่อเนื่อง จนล่าสุดขึ้นมาปิดที่ 9.70 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 2.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 205 ล้านบาท น้องผึ้งก็อยู่ในใจของคนเล่นหุ้นแล้วล่ะ..อิอิอิ