ดอลล์แข็งค่าฉุดน้ำมันดิบปิดปรับลง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ส.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งได้สกัดปัจจัยบวกจากรายงานที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบ 3 เดือน
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 71 เซนต์ ปิด (26 ส.ค.) ที่ 38.6 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค.ขยับลง 7 เซนต์ ปิดที่ 43.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ การแข็งค่าของดอลลาร์ได้สกัดปัจจัยบวกจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 ส.ค.ลดลง 5.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 450.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในช่วง 1 สัปดาห์นับตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย. และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้นเพียง 250,000 บาร์เรล สู่ระดับ 57.7 ล้านบาร์เรล ขณะที่น้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล