SET สัปดาห์นี้ Sideways Down การเมืองใน-ตปท.กดดัน แนะลงทุนเน้นหุ้นกำไร Q3 โตดี

Weekly outlook: “Sideways/Down” ต้าน 1223/1232จุด รับ 1173/1157จุด

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สัปดาห์นี้ (26-30 ต.ค.63)

• (*) US Stimulus : นักลงทุนยังคงจับตาการเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 4 ระหว่างนางแนนซี เปโลซี ประธานสส. และนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลัง เพื่อจะทราบความชัดเจนว่ามาตรการดังกล่าวจะอุนมัติได้ทันก่อนการเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ 3 พ.ย.หรือไม่ โดยในกรณีที่อนุมัติไม่ทัน 3 พ.ย. คาดจะทำให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงปรับฐานแรง จากภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯที่จะล่าช้าออกไป ท่ามกลางภาวะที่ตลาดยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ ขณะที่กรณีอนุมัติทันก่อนการเลือกตั้ง 3 พ.ย. คาดทำให้ตลาดโลก Rebound ขึ้น ก่อนที่จะ Sideway Down จากความเสี่ยงด้านนโยบายจากการเลือกตั้งปธน. ที่ครั้งนี้มีโอกาสเปลี่ยนขั้ว
• (*) Second Wave : การแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ยังคงรุนแรงต่อเนื่อง โดยยอดผู้ติดเชื้อรายวันในสหรัฐฯ พุ่งสูงถึง 6 หมื่นราย ขณะที่ทางฝั่งยุโรป ทั้งอิตาลีสเปน เยอรมนี และอังกฤษ ต่างพบยอดผู้ติดเชื้อรายวันท า All time high ทำ ให้มีการนำมาตรการป้องกันที่เข้มงวดกลับมาใช้อีกครั้ง ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจบางอย่างต้องหยุดชะงัก กดดันภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกให้ล่าช้าออกไป
• (*) TH Politics : ความคืบหน้าประเด็นการเมืองไทย กลุ่มผู้ชุมนุมได้ส่งมอบหนังสือเรียกร้องให้นายกฯลาออกจากตำแหน่ง แก่ตัวแทนจากรัฐบาล และให้เวลาในการพิจารณา 3 วัน เส้นตาย 24 ต.ค. โดยหากยังไม่ชัดเจนจะยกระดับข้อเรียกร้องขึ้นไปให้มากกว่าระดับรัฐบาล ขณะที่ 26-27 ต.ค.นี้ จะมีการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อหาทางออกทางการเมือง แนะจับตาอย่างใกล้ชิด
• (*) Banking Earnings : ผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์ทั้งหมด 7 ธนาคารรายงานกำไรสุทธิรวม 2.3 หมื่นล้านบาท -50.2%y-y -0.4%q-q หลักๆมาจากการตั้งสำรองสูง โดยเฉพาะ TMB, SCB, KTB, KKP ขณะที่แนวโน้ม 4Q20 คาดจะยังอ่อนตัวทั้ง y-y q-q จากการตั้งสำรองที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อ ผสานกับค่าใช้จ่ายการดำเนินงานที่เพิ่มตาม Seasonal ทำให้ Outlook กลุ่มธนาคารไม่สดใส ส่วนประเด็น Stress Test ธนาคารต่างๆได้รายงานผลต่อธปท.ไปเมื่อ 19 ต.ค. คาดจะรู้ผลเร็วๆนี้
• (*) Key to Watch : จับตาการประชุม BOJ (28-29ต.ค.) และ ECB (29ต.ค.)Nomura คาดไม่มีมาตรการเพิ่มเติม แต่แนะติดตามมุมมองเศรษฐกิจ

กลยุทธ์การลงทุน : Second Wave ในฝั่งตะวันตกยังรุนแรงและมียอดติดเชื้อรายวันสูงสุดใหม่ และความไม่แน่นอนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผสานความเสี่ยงการเมืองภายใน คงแนะนำถือหุ้นเพียง 25% ส่วนการเก็งกำไรเน้นหุ้นแนวโน้มกำไร 3Q20 น่าจะดี TU, CPF, KCE, SMT, HANA, WICE, ICHI, OSP, HTC, SAPPE, SPALI, XO กลุ่มที่ใกล้ฟื้นตัว GFPT

หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ CPF, KSL, TU ส่วนสัปดาห์ก่อน XO, HTC, TU ให้ผลตอบแทน 0.28 % ดีกว่าดัชนีฯที่ให้ผลตอบแทน -1.63 %

1) CPF(Trad.): ราคาหุ้นอยู่ในจุดซื้อลงทุน + คาดผลประกอบการ 3Q20 เชิงบวก

2) KSL(Trad.): ราคาน้ำตาลอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น หนุนผลประกอบการปี 2021

3) TU(Trad.): กำไร 3Q20 โตเด่น + มองกลุ่ม Food ทนแรงกดดันต่อเศรษฐกิจได้