IP แกร่ง!

IP ยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง สืบเนื่องจากมีปัจจัยบวกจากโอกาสในวิฤติโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคตระหนักถึงสุขภาพมากขึ้น


คุณค่าบริษัท

มีความเชื่อมั่นว่า บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) หรือ IP ยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง สืบเนื่องจากมีปัจจัยบวกจากโอกาสในวิฤติโควิด-19 ที่ทำให้ผู้บริโภคตระหนักถึงสุขภาพมากขึ้นนั่นเอง

เนื่องจากทาง IP เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องกับการขยายตัวหรือการเติบโตของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ตลาดวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก ตลาดยา และตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยง

ทั้งนี้ ทำให้ประมาณการต่อกำไรสุทธิในไตรมาส 3 ปี 2563 ราว 20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากไตรมาสก่อน และ 49.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ปัจจัยหนุนจากประมาณการรายได้ 110 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.6% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากธุรกิจรักษาสุขภาพและชะลอวัย (สัดส่วน 55%) เนื่องจากผู้บริโภคมีความตระหนักถึงการดูแลสุขภาพมากขึ้นหลังเผชิญวิกฤติโควิด-19

ขณะที่ธุรกิจนวัตกรรมความงาม ธุรกิจดูแลและส่งเสริมสุขภาพของสัตว์เลี้ยง และธุรกิจผลิตภัณฑ์สำหรับปศุสัตว์ยังไม่มีการเติบโตอย่างมีนัย ระหว่างไตรมาสคาดอัตรากำไรขั้นต้นราว 60% เพิ่มขึ้น 120% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากการเพิ่มช่องทางขายออนไลน์มากขึ้น

พร้อมทั้งมีการคาดการณ์สำหรับการเติบโตของรายได้ในอนาคตอย่างปี 2563 เติบโตราว 507 ล้านบาท ต่อไปในปี 2564 เติบโตราว 729 ล้านบาท และในปี 2565 เติบโตราว 802 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ยราว 29.3% ต่อปี

มีปัจจัยบวกสำคัญดังนี้ 1) โอกาสจากวิกฤติโควิด-19 ที่ทำให้ผู้บริโภคตระหนักถึงสุขภาพมากขึ้น จึงมีทั้งรายได้จากฐานลูกค้าซื้อซ้ำ ใช้เห็นผล มั่นใจ แชร์ต่อ เกิดลูกค้ารายใหม่ 2) พัฒนาผลิตภัณฑ์หลากหลาย ตอบโจทย์ปัญหาต่าง ๆ ของลูกค้ารอบด้าน 3) สังคมที่นิยมมีบุตรน้อยลง หันมาเลี้ยงสุนัขและแมวเหมือนลูก จึงเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพและอาหารสำหรับสุนัขและแมวคุณภาพสูง ซึ่งบริษัทมีสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าว และ 4) มีผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการเลี้ยงปศุสัตว์เพื่อการบริโภคที่ใช้แทนยาปฏิชีวนะ ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้บริโภคปลายทางในระยะยาว

นับว่ารายได้เป็นการเติบโตสม่ำเสมอต่อเนื่องทุกปีตลอด 3 ปีที่ผ่านมา (2560-2562) โดยมีรายได้เติบโตเฉลี่ยที่ 22.5% ต่อปี! ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการทำธุรกิจและเป็นธุรกิจที่อยู่ในกระแสโลก

นอกจากนี้ด้านสถานะทางการเงินแข็งแกร่ง โดยบริษัทมีอัตราหนี้สินต่อทุนต่ำเพียง 0.02 เท่า แทบไม่มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย โดยมีสถานะทางการเงินเป็น Net Cash จึงพร้อมต่อการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องหากมีการทำ M&A เพิ่มเติมในอนาคต และมีนโยบายจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้และหักสำรองทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนด

ประเมินได้ว่า IP นับเป็นหุ้นที่แข็งแกร่งด้านธุรกิจและผลประกอบการ!!!

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. นายทรงวุฒิ ศักดิ์ชลาธร 102,852,300 หุ้น 49.93%
  2. นายพิริยรัชต์ ภัทรกิตต์เกษม 14,200,000 หุ้น 6.89%
  3. นายธำรงชัย เอกอมรวงศ์ 5,977,200 หุ้น 2.90%
  4. น.ส.พิมพ์ภัทรา ศุภพัชรวงศ์ 5,836,600 หุ้น 2.83%
  5. นายภาววิทย์ กลิ่นประทุม 5,376,600 หุ้น 2.61%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายอุดม คชินทร ประธานกรรมการบริษัท, กรรมการอิสระ
  2. นายทรงวุฒิ ศักดิ์ชลาธร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, กรรมการ
  3. น.ส.สุภาภรณ์ ฤกษ์พิทักษ์พาณิช กรรมการ
  4. น.ส.นภาภรณ์ เดชอัคราช กรรมการ
  5. นายปิยะมิตร ศรีธรา กรรมการอิสระ, ประธานกรรมการตรวจสอบ

Back to top button