หุ้นยุโรปปิดพุ่ง หลังจีดีพีสหรัฐฯขยายตัวเกินคาด

สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 3.5% ปิด (27 ส.ค.) ที่ 362.27 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,658.18 จุด พุ่งขึ้น 157.13 จุด หรือ +3.49%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,315.62 จุด พุ่งขึ้น 318.19 จุด หรือ +3.18% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,192.03 จุด เพิ่มขึ้น 212.83 จุด หรือ +3.56%

ตลาดหุ้นยุโรปทะยานขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า GDP ไตรมาส 2/2558 ขยายตัว 3.7% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 2.3% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.3% โดยการปรับตัวดีขึ้นดังกล่าวเกิดจากการที่ภาคธุรกิจเพิ่มการลงทุน และเพิ่มสต็อกสินค้า รวมทั้งการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค และการใช้จ่ายของรัฐบาล

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานของสถาบัน Ifo ซึ่งระบุว่า บริษัทของเยอรมนีทำการว่าจ้างพนักงานมากขึ้นในเดือนส.ค. หลังจากลดลงในเดือนมิ.ย. และก.ค. ทั้งนี้ ดัชนีการจ้างงานของ Ifo ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 108.3 ในเดือนส.ค. จาก 107.2 ในเดือนก.ค.

ผลสำรวจระบุว่า บริษัทในทุกภาคธุรกิจ ยกเว้นภาคการผลิต มีการว่าจ้างพนักงานมากขึ้น โดยภาคค้าปลีก และค้าส่งต่างเพิ่มจำนวนพนักงาน เนื่องจากผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ส่วนภาคบริการมีการจ้างงานสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2011

หุ้น Bouygues SA ซึ่งเป็นบริษัทรายใหญ่ของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 5% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มเป้าหมายกำไรสำหรับธุรกิจโทรศัพท์ในปี 2558 ขณะที่หุ้น Fresenius SE ซึ่งเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์การแพทย์รายใหญ่ของเยอรมนี ปรับขึ้น 6.2% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่าจะเพิ่มการจ่ายเงินปันผลอีกอย่างน้อย 20% ในปีนี้