WGE รีบาวด์ 11% “ซีอีโอ” ลั่น 3 ปีรายได้ 5 พันลบ. ฟากโบรกฯการันตีหุ้นแตะเป้า 3.93 บ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท เวล เกรด เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ WGE ณ เวลา 15.10 น. อยู่ที่ระดับ 2.20 บาท บวก 0.22 บาท หรือ 11.11% สูงสุดที่ระดับ 2.26 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.02 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 233.09 ล้านบาท

นายเกรียงศักดิ์ บัวนุ่ม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เวล เกรด เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ WGE เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในระยะ 3 ปี (2564-2566) บริษัทประเมินว่ารายได้รวมจะปรับตัวขึ้นอยู่ที่ระดับ 5,000 ล้านบาท หรือเติบโตเฉลี่ย 15-30% ต่อปี สอดคล้องกับภาพรวมผลการดำเนินงานย้อนหลังในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (ไม่นับรวมปี 2563 ที่มีภาวะตลาดที่ไม่ปกติ) ซึ่งจะช่วยให้ WGE กลายเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างขนาดกลางติด 1 ใน 10 ของอุตสาหกรรมรับเหมาฯ ในประเทศไทย

โดยบริษัทประเมินว่าภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2564 จะกลับมาเติบโตในระดับปกติ หรือมีรายได้เติบโต 15-30% จากปี 2563 เนื่องจากงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่สูงขึ้นเป็นเท่าตัว จากปัจจุบันอยู่ที่ 1,500 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าหมายรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ให้อยู่ในระดับสูง หรืออยู่ในระดับที่สูงกว่าอุตสาหกรรมโดยรวม จากปี 2563 ที่หากจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ระดับ 17% ซึ่งสูงกว่าอุตสาหกรรมโดยรวมที่ทำได้เฉลี่ย 10% เนื่องจากสามารถบริหารจัดการงาน และควบคุมต้นทุนได้ดี รวมถึงได้รับผลกระทบโควิด-19 ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับคู่แข่ง เพราะมีความสามารถในการหมุนเวียนงานที่หลากหลายกลุ่มลูกค้า และคล่องตัวสูง

ขณะที่ ตั้งแต่ปลายปี 2563 ถึงปี 2564 บริษัทมีการปรับแผนเข้ารับงานภาครัฐ และจะมีการประกาศผลประมูลออกมาช่วงปลายปี 2563 ค่อนข้างเยอะ คาดว่าจะช่วยผลักดันสัดส่วนรายได้ของงานภาครัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% จากปัจจุบันเฉลี่ย 23% รวมถึงในส่วนของงานก่อสร้างอาคารโรงงานที่ขยายตัวมากขึ้น จากปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 36% ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเข้ารับงานก่อสร้างอาคารโรงงานเพิ่มเติม 2-3 แห่ง มูลค่าเฉลี่ย 200 ล้านบาทต่อโครงการ เบื้องต้นจะสรุปความชัดเจนภายในสิ้นปี 2563 นี้

ด้านนายสัมฤทธิ์ชัย ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน WGE กล่าวว่า แนวโน้มราคาหุ้น WGE ในปี 2564 จะไต่ไปสู่ระดับเป้าหมายที่ได้วิเคราะห์ไว้ที่ 3.93 บาท อิงเป้าหมายอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (Target P/E) ปี 2564 ที่ระดับ 12.90 เท่า ซึ่งยังสูงกว่ากลุ่มอุตสาหกรรมโดยรวมอยู่ดี อีกทั้งทุกฝ่ายมีความเชื่อมั่นต่อหุ้นที่จะมีการเติบโตที่ดีแน่นอน

ด้านผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3/2563 จะมีการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) อนุมัติงบการเงิน และประกาศงบฯ ในช่วงกลางเดือน พ.ย. 2563 เบื้องต้นภาพรวมผลการดำเนินงานมีรายได้มากกว่าฐานเดิมที่เคยทำไว้ ซึ่งเป็นไปตามการรับรู้รายได้ของแบ็กล็อก และความสามารถในการทำอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงมาก ประกอบกับปัจจุบันที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมกลับมาเดินหน้าพัฒนาโครงการกันแล้ว รวมถึงงานก่อสร้างอาคารโรงงานที่จะมีการส่งมอบงานเพิ่มเติม และการรอเซ็นสัญญางานภาครัฐที่ชนะการประมูลแล้วอีกด้วย