ทรัมป์แพ้ รีพับลิกันชนะ

โจ ไบเดน ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แม้ทรัมป์โวยวายฟ้องศาล แต่ศาลตีตกคำร้องให้หยุดนับคะแนน ส.ส. ส.ว. รีพับลิกันก็รุมด่าทรัมป์ทำลายประชาธิปไตย


ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

โจ ไบเดน ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แม้ทรัมป์โวยวายฟ้องศาล แต่ศาลตีตกคำร้องให้หยุดนับคะแนน ส.ส. ส.ว. รีพับลิกันก็รุมด่าทรัมป์ทำลายประชาธิปไตย

คิดแบบคนไทย ศาลสูง 6:3 เป็นรีพับลิกันน่าจะเข้าข้างทรัมป์ แต่การที่ผู้พิพากษามีที่มาอย่างเปิดเผย เสนอชื่อโดยประธานาธิบดี รับรองโดยวุฒิสภา เห็นกันชัด ๆ ว่าพรรคไหนตั้ง ทำให้ต้องตัดสินคดีการเมืองอย่างระมัดระวัง ต้องมีเหตุผลอธิบายได้ ถ้าลำเอียงกันหน้าด้าน ๆ ระบบศาลก็พังสังคมรุมด่า

ไม่เหมือนบางประเทศ ศาลลอยมาจากรัฐพันลึก อ้างตัวเป็นกลาง แต่เป็นเครื่องมือทำลายล้างฝ่ายตรงข้าม ก็ยังยกก้นเป็นคนดีย์ห้ามวิพากษ์วิจารณ์

ไบเดนชนะก็จริง แต่โพลทุกสำนักหน้าแหก ที่เก็งว่าจะชนะถล่มทลาย ทรัมป์ยังชนะพลิกโพลในหลายรัฐ รีพับลิกันยังรักษาเสียงข้างมากในวุฒิสภา แถมได้ ส.ส.เพิ่มขึ้น คนไทยก็ฉงนฉงาย อเมริกันชนมันโง่ขนาดไหนวะ ยังเลือกทรัมป์เลือกรีพับลิกันเหยียดผิวเหยียดเพศ ให้ท้ายตำรวจฆ่าคนดำ ฯลฯ

แต่นั่นเป็นแค่ภาพด้านหนึ่ง ไม่ใช่ทั้งหมด คนเลือกรีพับลิกันน่าจะมองนโยบายเศรษฐกิจมากกว่า และส่วนหนึ่งก็ไม่เอาทรัมป์

ทรัมป์กร่าง โอหัง ปั่นเฟคนิวส์ ปลุกความเกลียดชัง เกลียดจีนเกลียดผู้อพยพแย่งงานทำ จนทำให้ความคิดเหยียดผิวเหยียดเพศกลับมา

แต่ถ้าฟังคำสัมภาษณ์คนไทยสัญชาติอเมริกัน ที่เลือกรีพับลิกัน จะพบว่าแม้ไม่ชอบทรัมป์ ก็เห็นด้วยกับนโยบายลดภาษี American First ทำให้คนมีงานทำ รวมทั้งไม่พอใจ “โอบามาแคร์” ซึ่งทำให้คนชั้นกลางต้องจ่ายประกันสุขภาพมากขึ้น

จริง ๆ แล้ว ทั้งเดโมแครต รีพับลิกัน ก็อยู่บนพื้นฐานประชาธิปไตยอเมริกัน เน้นเสรีภาพปัจเจกชน แต่มองจากทัศนะคนละด้าน แนวคิดเศรษฐกิจแบบรีพับลิกันคือทุกคนต้องรับผิดชอบตัวเอง มีรัฐสวัสดิการระดับหนึ่งแต่อย่าสร้างภาระภาษี ไม่ต้องการให้เอาภาษีไปอุ้มคนไม่ทำงาน

รีพับลิกันจึงต่อต้านการบังคับใส่หน้ากาก ทุกคนควรดูแลสุขภาพตัวเอง ต่อต้านล็อกดาวน์ เพราะต้องเอาเศรษฐกิจไว้ก่อน การครอบครองอาวุธปืน ก็เป็นการถกเถียงเรื่องสิทธิพื้นฐานที่ประชาชนจะมีอาวุธไว้ป้องกันตัวเอง ไม่ยอมให้รัฐถืออาวุธฝ่ายเดียว

ลึกลงไปคือจิตสำนึกปัจเจกไม่ไว้วางใจรัฐ ซึ่งมีอยู่ด้วยกันทั้งสองฝ่าย ประชาธิปไตยอเมริกันมีรากฐานจากการปกครองตัวเอง จากเมืองคาวบอย เลือกผู้ว่าฯ เลือกนายอำเภอ เลือกผู้พิพากษากันเอง แล้วรวมกันเป็นเมือง เป็นรัฐ เป็นประเทศ

ข้อแตกต่างเป็นเรื่องทัศนะ เสรีนิยม Vs อนุรักษนิยม เช่นเดโมแครตสนับสนุนทำแท้งเสรี แต่งงานรักร่วมเพศ แต่รีพับลิกันต่อต้านเพราะฐานเสียงเป็นพวกเคร่งศาสนาเดโมแครตต้องการขึ้นภาษีนิติบุคคล ควบคุมสถาบันการเงินและบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยี แต่รีพับลิกันมองว่าต้องลดภาษีเพิ่มจ้างงาน

เลยมีเรื่องขำ ๆ ดาวโจนส์พุ่งพรวดเพราะดีใจได้ไบเดน จะใช้วงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจสูงกว่า แต่การที่รีพับลิกันยังครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา จะทำให้ไบเดนขึ้นภาษีไม่สำเร็จ

ความเป็นรีพับลิกัน เดโมแครต ในอเมริกาจึงอยู่คนละโลกกับการเมืองไทย ที่ฝ่ายขวาไม่เอาเลือกตั้ง อ้างอำนาจศักดิ์สิทธิ์ แต่งตั้งคนดี เรายังไม่มีพรรคการเมืองประชาธิปไตยอนุรักษนิยมจริง ๆ ด้วยซ้ำ เห็นแต่พรรคดัดจริต บอยคอตต์เลือกตั้ง สมคบรัฐประหาร แล้วอ้างเป็นเดโมแครตเมืองไทย

ไม่ว่าใครชนะ คนอเมริกันก็ให้ความสำคัญเรื่องสิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย แต่ยุคทรัมป์ใช้ท่าทีอันธพาล มุ่งผลประโยชน์การค้า America First ถอยตัวเองจากความร่วมมือต่าง ๆ สร้างปัญหาละเมิดสิทธิในประเทศตัวเอง แล้วยังไปด่าคนอื่น

ไบเดนจะมีความชอบธรรมกว่า ในการนำสหรัฐฯ กลับมามีบทบาทในเวทีโลก ปกป้องสิทธิมนุษยชนมากขึ้น

Back to top button